แนะนำการเลือกกล้องติดรถ ตัวช่วยสำคัญของคนขับรถ
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นคลิปเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนที่มีคนแชร์ต่อๆ กันมา เหตุการณ์เหล่านี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็มีเกิดขึ้นกันทุกวัน ส่วนหนึ่งมาจากการพฤติกรรมการขับ ไม่ว่าจะขับรถเร็ว ประมาท หรือฝ่าฝืนกฎจราจร รวมไปถึงทักษะการขับที่ไม่ดีพอ บางทีเลยเถิดไปถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน แต่ปัจจุบันมีสิ่งที่พอช่วยเราได้เวลาเกิดอุบัติเหตุ นั่นคือ กล้องติดรถยนต์ นับเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่เจ้าของรถควรใช้ เพราะจะช่วยบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐานเวลาเกิดเหตุการณ์ต่างๆ นอกจากนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีคำสั่งให้บริษัทประกันวินาศภัยมอบส่วนลดเบี้ยประกันภัย 5-10% ในการรับประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ซึ่งต้องติดตั้งกล้องไว้ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย
สำหรับใครที่ยังไม่มีกล้องติดรถ และคิดที่จะซื้อมาติดตั้ง แต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการเลือกกล้อง เรามีแนวทางการเลือกและข้อแนะนำการใช้กล้องติดรถยนต์มาฝาก
มีด้วยกันหลากหลายขนาด ส่วนใหญ่เป็นจอแบบ LCD ตัวเลนส์ควรเก็บภาพได้กว้างตั้งแต่ 140 องศาขึ้นไป จึงจะถือว่าครอบคลุมได้ใกล้เคียงกับการมองเห็นของมนุษย์ และสามารถบันทึกภาพในระบบ HD ดูภาพวิดีโอจากตัวกล้องได้ เพราะในบางรุ่นราคาถูกจะต้องถอดการ์ดไปดูกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น และถ้าได้ระบบเชื่อมต่อแบบ HDMI หรือ High Definition Multimedia Interface ด้วยยิ่งดี นอกจากนี้หากใช้ TF card จะสะดวกที่สุด เพราะหาซื้อได้ง่าย มีหลายขนาดความจุ หากมีฟังก์ชั่นป้องกันการสั่นสะเทือน และความเร็วสมจริงตามตัวรถยนต์ได้ด้วยยิ่งดี
กล้องติดหน้ารถปัจจุบันมีราคาตั้งแต่หลักร้อยบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของคุณภาพต่ำจากจีนใช้ไม่นานก็พัง ไปจนของมีแบรนด์ มีตัวแทน ทำตลาดจริงจังราคาหลักพันบาทขึ้นไป อยากให้เน้นไปที่คุณสมบัติความคมชัดของภาพ โดยเฉพาะตอนแสงน้อย เช่น กลางคืน ซึ่งข้อมูลตรงนี้หาดูได้จากรีวิวผู้ใช้งานจริง
ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือบริเวณด้านหน้า เช่นด้านบนของกระจกหน้ารถ หรือยึดกับคอนโซล (ถ้าต้องจอดรถตากแดดบ่อยๆ ความร้อนอาจทำให้ยางยึดเกาะกล้องคลายตัวหลุด และตกลงมาเสียได้ แนะนำให้ถอดเก็บพ้นแดดขณะจอด)
4. ซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ
ควรเลือกร้านที่มีชื่อบริษัท และมีตัวแทนจำหน่ายเป็นเรื่องเป็นราว เวลาเลือกควรเลือกแบบที่มีรับประกันหลังการขาย และก่อนซื้อก็ควรลองเปิด-ปิด บันทึก-เล่นให้ครบ ส่วนยี่ห้อหรือรุ่นที่เหมาะสมก็เลือกตามงบประมาณของเราดีที่สุด และควรศึกษาหาอ่านรีวิวผู้เคยใช้ก่อนซื้อก็จะช่วยในการตัดสินใจได้
จากข้อมูลของ
มูลนิธิเมาไม่ขับ พบว่าประเทศไทยมีรถเพียง 2 แสนคันที่ติดกล้องหน้ารถ คิดเป็น 15% จากจำนวนรถทั้งหมดกว่า 10 ล้านคัน นับว่าน้อยมาก เนื่องจากอุบัติเหตุบนถนนเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้ามีภาพเคลื่อนไหวจากกล้องก็สามารถใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล และช่วยให้เราสามารถเรียกร้องบริษัทประกันภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นการติดกล้องในรถยนต์ก็เหมือนช่วยให้เราอุ่นใจเพิ่มได้