ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

ขั้นตอนการเปลี่ยนหัวเทียน เปลี่ยนง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

icon 12 เม.ย. 60 icon 54,623
ขั้นตอนการเปลี่ยนหัวเทียน เปลี่ยนง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

ขั้นตอนการเปลี่ยนหัวเทียน เปลี่ยนง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินจำเป็นต้องมีระบบการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ เพื่อให้ได้กำลัง ด้วยการฉีดละอองน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และผสมกับอากาศตามสัดส่วนที่เหมาะสม จุดประกายไฟด้วยหัวเทียนที่ติดตั้งตำแหน่งใกล้กับห้องเผาไหม้มากที่สุด เพื่อให้การจุดติดไฟนั้นรวดเร็วและสมบูรณ์ที่สุด 

ภาพจาก www.eng.ox.ac.uk
แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ หัวเทียนถูกความร้อนสะสมมากๆ และมีคราบเขม่าที่มาจากการเผาไหม้ ติดค้างเป็นคราบบนเขี้ยวหัวเทียนหรือที่แกนนำไฟฟ้าของหัวเทียน หากมีมากๆ ก็อาจทำให้การจุดประกายไฟนั้นไม่สมบูรณ์และขาดความแม่นยำได้ หรือเรียกกันติดปากว่า "หัวเทียนบอด" โดยทั่วไปอายุการใช้งานหัวเทียนรุ่นธรรมดาอยู่ที่ 20,000 - 40,000 กิโลเมตร ส่วนรุ่นพิเศษที่เป็นวัสดุแบบอิเรเดี่ยมหรือแพลตตินัมนั้นอายุราวๆ 100,000 กิโลเมตร

นอกจากนี้รถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกทั้งระบบ LPG/NGV ก็จำเป็นต้องตรวจเช็คระบบไฟและหัวเทียนถี่ขึ้น เพราะความร้อนจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเหล่านี้มีสูงกว่าที่ใช้น้ำมันเบนซิน จึงควรเลื่อนกำหนดการเปลี่ยนหัวเทียนขึ้นมาราวๆ 10,000 - 20,000 กิโลเมตรโดยประมาณ 

การเปลี่ยนหัวเทียนเมื่อถึงกำหนดตามคู่มือรถยนต์ของแต่ละรถรุ่นนั้น จึงมีความจำเป็น เพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์นั้นราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุดรวมถึงช่วยประหยัดน้ำมันด้วย ทีนี้เรามาดูว่าอาการต่างๆ ที่เกิดจากหัวเทียนเริ่มเสื่อมสภาพมีอะไรกันบ้าง 
หัวเทียมเสื่อมสภาพหรือบอด
อาการของหัวเทียนบอด เกิดจากการกระโดดของกระแสไฟจากแกนกลางของหัวเทียนไปสู่เขี้ยวนั้นไม่สมบูรณ์ เพราะมีคราบเขม่า หรือการสึกหรอของตัวแกนกลางและเขี้ยวหัวเทียนที่มีระยะห่างผิดไปจากปกติ จึงทำให้จุดประกายไฟไม่ดีพอที่จะทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์   

เริ่มจากการสตาร์ตติดยาก เครื่องสะดุดเดินเบาไม่นิ่ง มีอาการสะดุดหรือกระตุกขณะเร่ง กินน้ำมันผิดปกติ ควันดำที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่หมด อาการเหล่านี้เป็นการบอกว่าระบบไฟฟ้าหรือหัวเทียนเริ่มจะหมดอายุ
การเปลี่ยนหัวเทียนนั้นหากรถที่ยังอยู่ในระยะประกันจากการผลิตก็สามารถเข้าศูนย์บริการได้เลย ทางช่างจะแจ้งการเปลี่ยนหัวเทียนเมื่อถึงระยะกำหนดตามคู่มือของรถยนต์แต่ละรุ่น แต่ถ้าใครที่ไม่สะดวกจะเข้ารับบริการเนื่องจากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย หรือรถยนต์ที่ใช้อาจมีอายุการใช้งานหมดระยะประกันศูนย์ฯ แล้ว ก็สามารถเข้าอู่ซ่อมรถทั่วไปที่ได้มาตรฐานหรือไว้ไจได้ให้ช่วยเปลี่ยนก็ย่อมได้

ขั้นตอนการเปลี่ยนหัวเทียน

สำหรับนายแบบของงานนี้เป็นรถยนต์ Honda Jazz ปี 2012 อายุ 5 ปี ใช้งาน ประมาณ 80,000 กม. (เปลี่ยนก่อนถึงกำหนดเพราะใช้พลังงานทางเลือก LPG)

ขั้นตอน
1. เตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ หัวเทียนชุดใหม่ เครื่องมือช่าง เช่น ประแจเบอร์ 10, ตัวทีเบอร์ 10, บล็อกถอดหัวเทียนพร้อมด้ามขัน, ไขควงปากแบนเล็ก (ใช้กดล็อคขั้วปลั๊กคอยล์จุดระเบิด) 

2. เริ่มถอดชิ้นส่วนที่ยากแก่การถอดหัวเทียนในรถยนต์รุ่นนี้ เครื่องยนต์ฝั่งที่มีหัวเทียนหันเข้าด้านใน จึงต้องรื้อแผงจิ้งหรีดออกมา เพื่อสะดวกในการใช้เครื่องมือถอดคอยล์จุดระเบิดและหัวเทียน  


3. ใช้ประแจแหวนข้างหรือปากตายเบอร์ 10 (แล้วแต่รุ่นรถยนต์) ถอดน็อตคอยล์ออกมา ใช้บล็อกถอดหัวเทียน คายเกลียวหัวเทียนออกมาก่อน จากนั้นใช้ตัวคอยล์นี่แหละจุ่มลงไปในช่องหัวเทียนแล้วดึงออกมา ส่วนเครื่องยนต์รุ่นที่เป็นสายหัวเทียนก็ใช้ก้านแม่เหล็กดูดหัวเทียนหรือบล็อกถอดหัวเทียนค่อยๆ ดึงออกมา


4. เปลี่ยนหัวเทียนชุดใหม่ใส่เข้าไป และประกอบระบบคอยล์ให้เรียบร้อยเพื่อลองสตาร์ตเครื่องยนต์ว่าทำงานปกติหรือไม่ (สำหรับหัวเทียนที่ใช้เป็นรุ่นแพลตตินัม เลือกค่าความร้อนขึ้น 1 เบอร์จาก 5 - 6 เพื่อรองรับเครื่องยนต์ใช้พลังงานทางเลือก)
5. จากนั้นก็ย้อนขั้นตอนการถอดและทดลองติดเครื่องยนต์อีกครั้ง ตรวจเช็คความเรียบร้อยเป็นอันเสร็จครับ

การเปลี่ยนหัวเทียนนั้นมีความจำเป็นเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่น ประหยัดและมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังช่วยยืดอายุเครื่องยนต์จากการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ให้ใช้งานได้อีกยาวนานและคุ้มค่า
สำหรับการเปลี่ยนหัวเทียนที่ใช้ในบทความนี้เสียค่าแรงช่างประมาณ 200 บาท ส่วนราคาหัวเทียนแล้วแต่สถานที่จำหน่ายราคาตั้งแต่ 400 - 1,000 บาทขึ้นไปต่อ 4 หัว ตามรุ่นและแบบ (อ่านเพิ่มเติม บทความ - เปลี่ยนหัวเทียนแบบไหนดี?)
หมายเหตุ : ขั้นตอนในการถอดประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ขึ้นกับรถยนต์แต่ละรุ่น
แท็กที่เกี่ยวข้อง เที่ยวสงกรานต์ ครวจเช็ครถก่อนเดินทางไกล ฤดูร้อน
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)