ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

เจาะลึกระบบและการใช้งาน Lane Keeping Assist System ใน Honda Sensing

icon 29 ธ.ค. 59 icon 25,191
เจาะลึกระบบและการใช้งาน Lane Keeping Assist System ใน Honda Sensing

เจาะลึกระบบและการใช้งาน Lane Keeping Assist System ใน Honda Sensing

รถยนต์ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่หลากหลายและมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่ เพื่อใช้เดินทางไกล ช่วยลดการเมื่อยล้า และเพิ่มความความปลอดภัยได้มากขึ้น เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ - Lane Keeping Assist System (LKAS) ที่มีใน Honda Accord Hybrid Tech นับว่าทันสมัยและล้ำอนาคตสุดๆ โดยจะมาพร้อมระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ - Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW) ซึ่งจะทำงานควบคู่กันได้อย่างดี แต่ว่าหากมีระบบมากมายเหล่านี้แล้วมีวิธีขั้นตอนการใช้งานอย่างไรมาดูกันเลยครับ 

ทีมงานเช็คราคา.คอม ได้มีโอกาสขับทดสอบรถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริดเทค ใหม่ ปี 2016 รุ่นท็อปสุด ราคา 1,849,000 บาท (นับว่าถูกลงจากรุ่นปี 2014 ที่มีราคา 1,899,000 บาท) พร้อมกับระบบ Honda Sensing ด้วยเส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ 3 วันเต็ม ซึ่งส่วนหนึ่งของระบบทั้งนั้นมี 2 ระบบที่เป็นประโยชน์มากๆ ตลอดการเดินและให้ความปลอดภัยได้ดี ก่อนอื่นมารู้จักระบบทั้ง 2 แบบนี้กันก่อนนั่นคือ
ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ - Lane Keeping Assist System (LKAS)
เป็นระบบที่ใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ โดยระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัยเพื่อช่วยผู้ขับขี่ให้ควบคุมรถอยู่ภายในช่องทางปกติและลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ ทั้งนี้ กล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณกระจกบังลมด้านหน้า จะตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถที่อยู่บนถนน โดยจะเริ่มทำงานที่ช่วงความเร็ว 72 - 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเปิดหรือปิดการทำงานของระบบนี้ได้ด้วยการกดสวิตช์ควบคุมที่ติดตั้งอยู่ที่มุมล่างขวาของพวงมาลัย เนื่องจาก LKAS ไม่ใช่ระบบขับขี่อัตโนมัติ ดังนั้นระบบจะหยุดทำงานถ้าหากผู้ขับขี่ปล่อยมือออกจากพวงมาลัย โดยจะมีการเตือนด้วยภาพผ่านทางหน้าจอ MID เพื่อให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ภายในช่องทางอีกครั้ง
ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ - Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW)
เป็นระบบที่ใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูล พร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง หากรถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางจนอาจเกิดอุบัติเหตุ ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็ว (ในกรณีเส้นแบ่งถนนเป็นเส้นทึบ) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร ระบบ RDM จะรวมอยู่ในระบบควบคุมการทรงตัว หรือ VSA เพื่อให้ตัวรถมีการเบรกอย่างเหมาะสม และพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า หรือ EPS ช่วยให้การบังคับพวงมาลัยทำได้อย่างแม่นยำ การแจ้งเตือนผ่านทั้งภาพและเสียง โดยจะแสดงผลผ่านทางหน้าจอ Multi Information Display-MID ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้ทราบว่าระบบกำลังทำงานเพื่อให้รถกลับมาอยู่ในช่องทาง โดยสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนต่างๆ ผ่านทางฟังก์ชั่น Setting ในตัวรถได้ 
มาถึงวิธีการใช้งานระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามรถคันหน้ากันก่อน เมื่อความเร็วถึงจุดที่ระบบทำงานได้นั่นคือ 72 - 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ให้กดปุ่ม "MAIN" ขวามือบนพวงมาลัย หน้าจอบอกการใช้งานจะสว่างขึ้น หลังจากนั้นก็ปรับตั้งความเร็วตามต้องการ ด้วยปุ่ม +/- เมื่อได้ความเร็วตามที่ตั้งไว้ หากต้องการใช้ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ - Lane Keeping Assist System (LKAS) ให้กดปุ่มล่างที่เป็นรูปรถกับเส้นขอบทางเพื่อเปิดการใช้งาน หลังจากนั้นระบบก็ตรวจจับเส้นช่องทางอัตโนมัติ พร้อมกับการบังคับเลี้ยวให้รถตรงช่องทางมากที่สุด แต่มีข้อแม้ว่าห้ามปล่อยมือจากพวงมาลัย เพราะจะมีการเตือนทันทีครับ
ต่อมาเมื่อต้องการใช้ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ - Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW) ระบบนี้สามารถเปิดใช้ได้จากการกดปุ่มทางขวาใต้ช่องแอร์คนขับ (ขวาล่างรูปรถเอียงออกนอกเลน) เพียงแค่นี้ระบบก็ทำงานทันทีครับ   
  


สัญลักษณ์เตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมระบบพวงมาลัยจะดึงกลับอัตโนมัติ 
ข้อสังเกตสำหรับระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ - Lane Keeping Assist System (LKAS) นั้นอาจต้องคอยดูบนจอหน้าปัดว่ารูปเส้นของทางนั้นต้องเป็นสีขาวทึบแสดงว่าระบบทำงานได้สมบูรณ์ แต่ถ้าเป็นเส้นโปร่งๆ หมายความว่าระบบไม่สามารถตรวจจับเส้นขอบทางได้ อาจเกิดจากเส้นแบ่งขอบทางนั้นไม่ชัดเจน ไม่มี หรืออาจซีดจาง เป็นต้น ส่วนระบบนี้หากเส้นของทางสภาพปกติจะสามารถตรวจจับได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลยครับ

ทางตรงระบบตรวจจับสบายหากใช้ระบบควบคุมความแปรผันยิ่งสะดวกเสริมด้วยระบบป้องกันออกนอกเลนยิ่งครบเครื่อง

เส้นของทางแบบนี้ระบบตรวจจับได้สบายๆ แต่เป็นทางลงเขาไม่ควรใช้นะครับ

สภาพเส้นทางแบบนี้ฝั่งซ้ายตรวจจับได้แต่ฝั่งขวาต้องระวังครับ

ความเร็วต่ำมากๆ ระบบไม่ทำงานนะครับ

เส้นขอบทางแบบนี้ระบบอาจตรวจจับยากสักหน่อย
นอกจากระบบจะช่วยเหลือการขับขี่และคอยเตือนเมื่อรถอยู่ในอาการที่ไม่ปลอดภัยแล้ว การใช้ระบบช่วยควบคุมรถออกนอกเลนและรักษาตำแหน่งให้อยู่ในเลนอัตโนมัติยังช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการต้องจับพวงมาลัยตลอดเวลา และลดการตึงเครียดในการขับขี่ระยะทางไกลได้เป็นอย่างดีอีกด้วยครับ

เดินทางถึงแม่กำปองอย่างไม่เมื่อยล้า
อีกระบบหนึ่งที่ทันสมัยก็คือ ระบบควบคุมความแบบแปรผันตามรถคันหน้า เมื่อเรด้าตรวจจับสัญญาณว่ามีรถด้านหน้าระบบจะปรับลดความเร็วให้เหมาะสมหรือเบรกให้เอง และเมื่อรถคันหน้าเพิ่มความเร็วหรือไม่มีรถอยู่ด้านหน้าแล้ว ระบบนี้ก็จะเพิ่มความเร็วให้ถึงจุดที่ผู้ขับตั้งเอาไว้โดยอัตโนมัติ และสามารถตั้งระยะห่างจากรถคันหน้าได้ 3 ระดับอีกด้วยครับ

ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริดเทค ใหม่ มีระบบความปลอดภัยอีกเพียบได้แก่ 
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ด้วยกล้องที่ติดตั้งด้านล่างของกระจกข้างฝั่งซ้ายและแสดงภาพบนหน้าจอขนาด 7.7 นิ้ว เมื่อมีการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย ด้วยความกว้างของภาพมากขึ้นถึง 4 เท่า หรือประมาณ 80 องศา พร้อมเส้นกะระยะ 3 เส้น 
  • กล้องด้านหลัง มุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ชัดมากๆ ขอบอกครับ และเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน
  • เสียงเตือนภายนอกรถ (Acoustic Vehicle Alerting System - AVAS) เมื่อขับโหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ระบบจะส่งเสียงเตือนให้ผู้ที่อยู่ภายนอกรับรู้ว่ามีรถกำลังเคลื่อนตัวอยูในระยะใกล้
  • ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light - ACL)
  • ถุงลมถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags รวม 6 ตำแหน่ง
  • โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-CON ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (VSA) ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (MA-EPS) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)

ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริดเทค นับเป็นรถที่ให้ทั้งความประหยัด ปลอดภัยและทันสมัย ขับขี่สบาย ไม่เมื่อยล้า อัตราเร่งจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า 215 แรงม้า นับว่าดุดันสะใจราวรถสปอร์ตซึ่งแตกต่างจากรูปทรงที่ดูหรูหรา ช่วงล่างนุ่มนวลและให้ความเกาะถนนมั่นใจ สิ่งอำนวยความสะดวกครบและความปลอดภัยเต็มคัน ในราคาสุดคุ้มต่ำจากรุ่นก่อนหน้าถึง 50,000 บาท แต่ได้ออปชั่นเกินตัวเพียง 1,849,000 บาท

แอคคอร์ดไฮบริดประหยัดจริงน้ำมัน 1 ถังจากกรุงเทพฯ ขับถึงเชียงใหม่ ยังเหลือขับเล่นในเมืองได้อีก

น้ำมันเกินครึ่งถังวิ่งได้อีก 411 กิโลเมตร

เมื่อเติมกลับคืนที่ระดับนำมันต่ำกว่าครึ่ง (รูปบน) เพียง 700 บาท! 
เทคโนโลยีต่างๆ ที่บริษัทรถยนต์คิดค้นและผลิตออกมาเพื่อช่วยการขับขี่ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น แต่หากมีเทคโนโลยีที่ดีมากมายแค่ไหน ผู้ขับขี่ควรต้องใช้ความระมัดระวัง เคารพกฏจราจรและดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ และรถต้องอยู่ในสถาพพร้อมต่อการเดินทางด้วยครับ 

จอดพักบ้างเพื่อลดการเมื่อยล้า

ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
แท็กที่เกี่ยวข้อง honda accord hybrid ท่องเที่ยว เชียงใหม่ แม่กำปอง
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)