ที่เที่ยวพร้อม คุณพร้อม แล้วรถพร้อมหรือยัง? มาเช็ครถกันเถอะ
เป็นเรื่องที่ต้องออกมาคอยเตือนกันอยู่เป็นประจำทุกๆ ปีเรื่องความปลอดภัยในช่วงวันหยุดยาว อย่าง "เทศกาลสงกรานต์" ที่กำลังจะมาถึง เทศกาลที่หลายๆ คนรอคอยจะเดินทางกลับไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ หรือท่องเที่ยวเพื่อใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ก็จะต้องมีการเตรียมพร้อมที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเส้นทาง การเตรียมตัว เตรียมรถ ก็จะช่วยให้คุณและคนที่รักผ่านพ้นช่วงเทศกาลแห่งความสุขได้อย่างปลอดภัย
สาเหตุของอุบัติเหตุบนถนนของไทย สาเหตุหลักมักมาจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูงเกินกำหนด, ขาดวินัยจราจร และที่สำคัญคือ "เมาแล้วขับ" แม้ว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะมีระบบช่วยเหลือ, ป้องกัน มากมาย แต่ผู้ขับขี่ก็ต้องพร้อมที่จะควบคุมรถยนต์อยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นก่อนจะขับขี่จำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีสติตลอดเวลาที่ขับขี่
เมื่อร่างกายพร้อม รถที่จะใช้เดินทางก็ต้องพร้อมด้วยเช่นกัน ก่อนจะออกเดินทางไกลหากเป็นไปได้ควรนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คความพร้อมของรถเพื่อให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพพร้อมเดินทาง หรือถ้าไม่มีเวลาเข้าศูนย์บริการก็สามารถตรวจเช็คเองเบื้องต้น ด้วยการสังเกตรอยรั่ว ซึม ตามชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ ว่ามีส่วนใดมีร่องรอยหรือไม่ ถ้ามีก็จะได้เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมทันที
เอ๊ะ มีน้ำหรืออะไรหยดไหมหนอ?
คันโยกเปิดฝากระโปรงหน้าตาแบบนี้ดึงเข้าหาตัวได้เลย
สังเกตรอยรั่วซึมรอบๆ เครื่องยนต์และส่วนประกอบต่างๆ ว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่
หากรถยนต์ที่ติดตั้งระบบแก๊สทั้งแบบ LPG หรือ NGV ให้ตรวจสอบเบื้องต้นด้วยการดม! เพื่อหากลิ่นแก๊สรั่ว และการสัมผัสหรือจับๆ บีบๆ ขยับๆ ตามท่อส่งแก๊สต่างอย่างเบาะ เพื่อดูว่ารอยท่อต่างๆ แน่นหรือไม่ ซึ่งควรนำรถเข้าไปตรวจเช็คกับร้านที่ติดตั้งได้มาตรฐานอีกรอบก่อนออกเดินทาง
สวิตช์แก๊สทำงานปกติหรือไม่
หากเป็นรถติดตั้งระบบแก๊สทั้ง LPG หรือ NGV ให้ลองจับๆ ขยับตามท่อส่งแก๊สว่ามีหลุดหลวมหรือไม่
หารอยร้าว
ไหนๆ ก็เปิดดูห้องเครื่องยนต์แล้วก็สังเกตท่อทางเดินต่างๆ ที่ใช้ยางเป็นวัสดุในการทำดูว่ามีแตกลายงา ร้าว ปริ หรือรั่วซึมหรือไม่ เช่น ท่อน้ำหม้อน้ำ ท่อน้ำมัน รวมถึงในรถที่ใช้ระบบแก๊สด้วยและเครื่องยนต์เทอร์โบที่ใช้ท่อยางเป็นท่อแรงดันในระบบด้วย
ท่อยางหม้อน้ำที่ดูแลง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
หากเครื่องยนต์แน่นขนาดนี้แนะนำเข้าศูนย์ไปเลยครับ
ของเหลวไม่พร่อง
ระบบน้ำหรือของเหลวต่างๆ เริ่มตั้งแต่ระดับน้ำในถังพักหม้อน้ำ, น้ำฉีดกระจก ไปจนถึงน้ำมันเบรกหรือคลัตช์ น้ำมันเครื่องยนต์ และน้ำกลั่นแบตเตอรี่ว่าพร่องลงหรือขาดมากกว่าครึ่ง หากพอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับของเหลวต่างๆ ก็ให้รีบเติม หรือหากไม่สะดวกควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าดูระดับของเหลวที่ลดต่ำลงมากๆ จนแทบหมดหรือต่ำกว่าระดับ "MIN" ซึ่งปกติควรอยู่ระดับ "MAX" นั้นให้เรียกช่างมาช่วยดูจะดีกว่าครับ หากเป็นน้ำมันเครื่องขาดมากๆ เครื่องยนต์อาจเสียหายได้
หากเป็นแบตเตอรี่แบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นก็สบายไปดูแค่วันเดือนปีที่ติดตั้ง
อย่าเกิน 1 หรือ 1 ปี 5 เดือน หรือสังเกตตาแมวต้องเป็นสีฟ้าๆ
ดูระดับในถังพักน้ำหากลดต่ำกว่าระดับ MAX เต็มพอดีอย่าล้นนะครับ เหลือที่ให้น้ำเดือดไว้บ้างจะได้ไม่ดันออกมา
ห้ามเติมบนฝาหม้อน้ำโดยตรง
สภาพดอกยางและลมยาง
ดอกยางควรเหลือไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร หรือลองใช้เหรียญบาทวางระหว่างร่องดอกยางควรเหลือ 1 ใน 3 ของตัวเหรียญ นอกจากนี้เนื้อยางต้องนิ่ม กดหรือจิกด้วยเล็บต้องมีรอยยุบลงไปและคืนตัว แก้มยางหรือหน้ายางต้องไม่แตกลายงา และสุดท้ายดูปีผลิตยางว่าใช้งานมากี่ปีแล้ว แม้ว่าโดยปกติอายุยางจะอยู่ราวๆ 4 ปี แต่ด้วยสภาพอากาศและถนนอันโหดร้ายในประเทศไทยอาจทำให้อายุขัยสั้นลงจึงควรใช้ยางไม่เกิน 2 หรือ 3 ปี (ขึ้นกับสภาพยางโดยรวมด้วย) เช่น ยางที่มีตัวเลข 2017 ผลิตสัปดาห์ที่ 20 ปี 2017 เทียบกับเวลาปัจจุบันดูว่า ยางมีอายุเหลืออีกประมาณกี่ปี เป็นต้น
สำหรับลมหรือแรงดันลมยางควรดูตามมาตรฐานสเปคจากโรงงานในแผ่นป้ายที่ติดข้างตัวรถ เมื่อเปิดประตู เพื่อดูว่าควรเติมกี่ปอนด์ หากมีสัมภาระหรือบรรทุกมากกว่าปกติไม่มากนัก ก็ควรเติมเพิ่มเผื่อไว้อีกประมาณ 2 - 4 ปอนด์ เช่น สเปคระบุว่า 28 ปอนด์ หากบรรทุกหนักก็เพิ่มเป็น 32 เป็นต้น
ร่องดอกยางต้องเหลือมากกว่า 2 มิลลิเมตร และเนื้อยางต้องนิ่มๆ
ระบบไฟฟ้า
ตรวจเช็คระบบไฟรอบคันทั้ง ไฟหน้า ไฟสูง-ต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก หรือตัดหมอก ว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ หากมีหลอดใดขาดควรเปลี่ยนทันที เพื่อความปลอดภัยขณะเดินทาง
ระบบไฟติดครบปลอดภัยแน่
มาถึงอีกจุดที่จำเป็นต้องใส่ใจเพิ่มขึ้นนั่นคือ ผ้าเบรกเราสมารถตรวจเช็คด้วยตาได้ โดยการดูที่ก้ามปูเบรกหรือคาลิปเปอร์นั่นเอง ให้ดูบริเวณตัวแผ่นผ้าเบรกที่สัมผัสแนบชิดกับจานนั่นเองว่าส่วนที่สัมผัสนั้นเหลือมากน้อยเพียงใด ซึ่งผ้าเบรกจะประกอบด้วย แผ่นเหล็กและแผ่นผ้าเบรกติดกัน หากตัวเนื้อผ้าเบรกหมดก็จะเหลือแต่เหล็กที่ขุดกับจานเบรกที่เป็นเหล็กด้วยกัน คิดสิว่าน่ากลัวขนาดไหน!
เล็งมุมดีๆ สักหน่อยก็จะมองเห็นผ้าเบรก
ฝั่งนี้เห็นชัดหน่อย สภาพนี้อย่างหนาตราช้างใช้ได้อีกยาว
ผ้าเบรกรถยนต์ ภาพจาก www.boschautoparts.com
ส่วนเบรกมือให้ลองดึงดูว่ามีความตึงมากน้อยแค่ไหน ที่พอให้รถสามารถจอดได้ในพื้นลาดเอียงอย่างปลอดภัย หากรู้สึกว่าเบรกมือไม่สามารถหยุดรถได้ให้นำเข้าศูนย์บริการฯ เพื่อให้ช่างตั้งระยะตึงของเบรกมือให้แน่นขึ้น
ใบปัดน้ำฝนควรตรวจสภาพยางด้วยการใช้มือลูบดูว่ายางคงความนิ่มตัวอยู่หรือไม่ หากพบว่ายางมีความแข็ง กรอบ หรือฉีกขาด ควรเปลี่ยนทันที แม้จะเดินทางในช่วงที่ไม่ใช้หน้าฝน แต่อย่าลืมว่าตลอดเส้นทางนั้น อาจมีแอ่งน้ำหรือละอองน้ำจากรถคันอื่นที่กระเด็นมาที่กระจกรถเราได้เสมอครับ
ใบปัดน้ำฝน แม้ไม่ใช่หน้าฝนก็ต้องใช้งานได้ดี
ใบปัดฝนหลังของรถยนต์ประเภทแฮตช์แบ็กยิ่งจำเป็น
ยกขึ้นแล้วจับๆ ดูที่ยางว่านิ่มหรือแข็ง
เช็คระบบช่วงล่างเบื้องต้น
ระบบช่วงล่างเช็คได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเองคือ เมื่อออกรถมีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ เช่น แก๊กๆ กึกๆ หรือเวลาเลี้ยวมากๆ มีเสียงดังจากล้อหน้า (กรณีรถขับเคลื่อนล้อหน้า) หรือไม่ เช่น ดังแก๊กๆ กึกๆ ซึ่งหากมีเสียงดังแสดงว่าระบบบูชปีกนก, แร็คพวงมาลัย, เพลาเริ่มมีปัญหา ให้รีบนำรถเข้าศูนย์บริการด่วน ส่วนระบบโช้กอัพนั้นให้สังเกตการยุบตัวเมื่อขึ้นและลงเนินกระดก ว่านิ่มเกินไปหรือมีอาการเด้งขึ้น-ลงมากเกินไปหรือไม่ และอีกวิธีหนึ่งคือเมื่อขับที่ความเร็วระดับหนึ่งแล้วเปลี่ยนเลนตัวรถมีอาการยวบยาบมากน้อยเพียงใด เป็นต้น
วางแผนเส้นทางที่จะใช้ล่วงหน้า
เพื่อให้สามารถคำนวณเวลาการเดินทางได้ ผู้ขับควรวางแผนเส้นทางที่จะใช้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปลายทาง โดยอาจจะใช้ระบบนำทางในรถที่มีติดตั้งมาให้ในหลายๆ รุ่น ถ้าสะดวกหน่อยก็เป็นการใช้แอปพลิเคชั่นบนมือถือ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด
ช่วงเทศกาลที่ทุกๆ คนต่างอยากที่จะเดินทางไปให้ถึงจุดหมายปลายทางเหมือนๆ กันนั้น แน่นอนสิ่งที่จะต้องพบเจอคือ สภาพการจราจรที่ติดขัดในบางช่วงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การมีน้ำใจแบ่งปันเพื่อนร่วมทางสลับกันไปไม่แย่งกันใช้ช่องจราจร ก็จะช่วยลดการแออัด เบียดเสียด ช่วยให้การจราจรลื่นไหล ทุกคนก็จะเดินทางถึงจุดหมายปลายทางพร้อมๆ กัน ที่สำคัญคุณและครอบครัวก็จะเดินทางอย่างปลอดภัย
แน่นอนว่าการเดินทางไกล อาจทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า การฝืนขับต่อไปไม่ได้ช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายได้ไวขึ้นแต่กลับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุให้สูงขึ้นต่างหาก การแวะพักตามจุดพักรถหรือปั๊มน้ำมันบ่อยๆ นอกจากจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ยังมีห้องน้ำและร้านสะดวกซื้อไว้อำนวยความสะดวก ให้ครอบครัวได้ยืดเส้นยืดสาย ให้ผู้ขับขี่ที่มีอาการง่วง ได้พักล้างหน้าหรือพักสายตา หรือถ้ามีผู้ที่สามารถเปลี่ยนกันขับได้ก็จะได้แวะเปลี่ยนผู้ขับขี่ที่พร้อมกว่าเพื่อเดินทางต่อไป
ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนการเตรียมตัวง่ายๆ ในเบื้องต้นเพื่อความความปลอดภัยก่อนเดินทาง ดังนั้น เพื่อจะทำให้ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลวันหยุดของคุณสามารถเดินทางได้อย่างสบายใจและอุ่นใจในทุกเส้นทาง