วัดใจ Honda Civic 1.5L Turbo VS Ford Focus 1.5L Ecoboost คุณจะเลือกใคร?

รถยนต์นั่งขนาดกลางที่กำลังมาแรงแซงรุ่นอื่นในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น ฮอนด้า ซีวิค 1.5 ลิตร เทอร์โบ อาร์เอส (Honda Civic 1.5L Turbo RS) และ ฟอร์ด โฟกัส 1.5 ลิตร อีโคบูสต์ (Ford Focus 1.5L Ecoboost) คู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อมากที่สุดในขณะนี้ เรามาดูว่ารุ่นไหนน่าใช้ มีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร และถ้าเป็นคุณจะเลือกคันไหนดี?

Honda Civic 1.5L Turbo RS

ภายนอกที่กินกันไม่ลงของทั้งคู่ที่เป็นท็อปสุดของรุ่น มาดูทางด้านฮอนด้า ซีวิค 1.5 ลิตร อาร์เอส กันก่อน จากความแบนราบลู่ลมและให้ความเป็นสปอร์ตคูเป้ ในสไตล์ยุโรป ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light กระจังหนัาคล้ายรูปเรือแต่มีทีเด็ดที่กันชนสปอร์ตเต็มคราบ ครั้งแรกกับการติดตั้งไฟเลี้ยวที่มุมกันชนหน้าทั้ง 2 ข้างสไตล์มะกัน เพิ่มชุดตกแต่งรอบคันออกแบบพิเศษเฉพาะ กระจกมองข้างขนาดใหญ่โตมองชัดเจน ฝั่งซ้ายมีกล้องจับภาพเมื่อเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเอาไว้มองรถในระยะใกล้ๆ

ทางด้านข้างเน้นคิ้วโครเมียมตามขอบกระจกและมือจับประตู ส่วนท้ายติดตั้งสปอยเลอร์ที่ดูเหมือนมี "คิ้ว" เสริมขึ้นมา แต่กลมกลืนกับทรงของไฟท้ายแบบตัว "C" กันชนดูเรียบๆ แต่ข้างใต้ซ่อนหม้อพัก 2 ใบซ้ายและขวา เป็นจุดสังเกตความแตกต่างระหว่างรุ่น 1.8 ลิตร และ 1.5 ลิตร เทอร์โบ

 

ฮอนด้า ซีวิค 1.5 ลิตร เทอร์โบ อาร์เอส รวมความเป็นสปอร์ตซีดานและคูเป้เข้าด้วยกัน ยกเว้นลายล้อแม็กแบบ 5 ก้านที่ดูเหมือนรถบ้านไปนิด เรียบร้อยไปหน่อย 

Ford Focus 1.5 EcoBoost 

มาดูทางด้านฟอร์ด โฟกัส ใหม่ กันบ้าง รูปลักษณ์ใกล้เคียงของเดิม เพิ่มเติมคือ มีความโค้งมนมากขึ้น ไฟหน้าเรียวเล็กดูเพรียวขึ้น แต่น่าเสียดายที่ยังใช้หลอดแบบฮาโลเจนอยู่ กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูนับเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ดยุคใหม่แทบทุกรุ่น กันชนหน้าบางลงสไตล์สปอร์ต ไฟตัดหมอกทรงเหลี่ยม และมีลิ้นหน้ามาให้ความดุดันนิดๆ 

ฟอร์ด โฟกัส เป็นตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู จึงมีความกะทัดรัด แต่อ้วนป้อมมากกว่ารถแบบซีดาน จึงให้ความรู้สึกบึกบึนแข็งแรงและให้อารมณ์เรซซิ่ง ยิ่งใครเคยเห็นเวอร์ชั่น RS หรือรายการแข่งขันระดับโลกแล้วละก็จะต้องตาเยิ้มไปตามๆ กัน

ส่วนท้ายตัดสั้นไฟท้ายทรงเดิมแต่ปรับช่องภายในใหม่สะดุดตาขึ้น ติดตั้งสปอยเลอร์หลังในลักษณะ "แค็บ" ได้ทั้งการดักลมและบังแดดให้ผู้โดยสารตอนหลังไปในตัว ล้อแม็กยังคงให้ความหรูหราซึ่งตัดกับรูปทรงพอสมควร แต่มองระยะไกลกลับโดดเด่นและสวยสะดุดตา

ภาพจาก www.carmagazine.co.uk

ภาพจาก www.pinterest.com

Honda Civic 1.5L Turbo RS

ภายในห้องโดยสารของฮอนด้า ซีวิค ออกแบบเน้นไปทางหรูหรามากกว่าสปอร์ต พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมปุ่มสั่งงานครบถ้วน มาตรวัดสไตล์อวกาศนับเป็นอุปกรณ์ภายในสิ่งเดียวที่ดูสปอร์ตมากที่สุด คอนโซลหน้าจะคล้ายๆ กับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นรองลงมา ช่วงคอนโซลกลางยิ่งย้ำความหรูหราเข้าไปอีกขั้น แต่กลับได้เบาะนั่งทรงสปอร์ตกระชับรับสัดส่วนได้ดี และแป้นเหยียบอะลูมิเนียมให้ดูซิ่งขึ้นมาบ้าง 

ด้านความความบันเทิงจอเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อได้ทุกรูปแบบ พร้อมแสดงภาพมุมอับข้างรถด้านซ้าย USB/AUX/HDMI/Bluetooth และสมาร์ทโฟนด้วยโปรแกรม Apple Carplay พร้อมด้วยบริการ Honda Call Center ล้ำหน้าจริงๆ  

Ford Focus 1.5 EcoBoost

ภายในโฟกัสให้อารมณ์แข็งแกร่งแตกต่างจากซีวิคสิ้นเชิง แม้จะออกแบบใหม่ แต่รูปทรงยังคงความเหลี่ยมๆ สันๆ หนาๆ ตามสไตล์รถยุโรป มาตรวัดที่ดูจะเป็นแบบกึ่งจะสปอร์ตดีหรือจะไปทางหรูหราดีก็แล้วแต่มุมมอง พวงมาลัยให้ความสปอร์ตอยู่บ้างและใช้วัสดุนิ่มมือกระชับไม่ลื่นเมื่อมีเหงื่อ ปุ่มควบคุมต่างๆ เต็มวงไปหมดต้องหัดเล่นจนคุ้นเคยสักพักใหญ่จึงจะใช้งานได้คุ้ม 

โฟกัสใหม่มีดีที่เบาะนั่งกึ่งบักเก็ตซีต โอบกระชับและล็อคลำตัวได้ดีมากๆ และยังให้สัมผัสที่นุ่มไม่เจ็บเมื่อนั่งนานๆ แต่ข้อเสียคือ ในช่วงตอนหน้าจะแคบไปสักหน่อย ช่องว่างขาและเข่ามีน้อย และดูอึดอัด แต่แลกกับความนุ่มของเบาะและฟีลลิ่งในการขับขี่ก็พอรับได้

อย่างที่บอกไปว่า โฟกัสจะมีความอึดอัดทั้งส่วนผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง แต่เมื่อนั่งลงจริงๆ กลับไม่แคบอย่างที่เห็นในภาพ ยังพอมีช่องว่างเหลือให้ขยับแขนขาได้พอสมควร

โฟกัสใหม่โดดเด่นในเทคโนโลยีความบันเทิง SYNC^TM 3 และระบบช่วยเหลือต่างๆ ด้วยจอเครื่องยนต์ที่แสดงผลครบทุกอย่างเท่าที่จะมี เช่น แสดงฟังก์ชันการจอดรถอัตโนมัติทั้งแบบจอดขนาน, จอดถอยเข้าช่อง และเตือนเมื่อมีวัตถุข้างหน้า นอกจากนี้สามารถเชื่อมต่อความบันเทิงได้ครบทุกรูปแบบทั้ง USB/AUX/Bluetooth สมาร์ทโฟน ผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านจอสัมผัส 8 นิ้ว ที่ไหลลื่นติดนิ้วดีจริงๆ แถมสั่งการได้ด้วยระบบ SIRI เมื่อเชื่อมต่อกับ iPhone เหมือนยกหน้าจอมือถือมาไว้บนหน้าปัดวิทยุ

Honda Civic 1.5L Turbo RS ฮอนด้า ซีวิคใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,498 ซีซี 16 วาล์ว วีเทคเทอร์โบ กำลังสูงสุด 173 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร เกียร์ CVT ช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังมัลติลิงค์ ดิสก์เบรก 4 ล้อ แม็ก 17 นิ้ว

ซีวิคเทอร์โบนับเป็นเครื่องยนต์ที่แรงเกินตัวหรือจะเรียกว่าเกินจำเป็นก็ย่อมได้ เพราะแม้จะ 1.5 ลิตร แต่ให้ดูแรงบิดที่มากเท่ากับรถเครื่องยนต์ใหญ่ อัตราเร่งตีนต้นไปจนถึงปลายลื่นไหลต่อเนื่องจากเกียร์แปรผัน ซึ่งจะให้ความรู้สึกดึงหลังติดเบาะแบบเบาๆ ในช่วงแรกของรอบเครื่องยนต์ หลังจากนั้นจะน้อยลง แต่ว่าความเร็วนั่นกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินคาดคิด ข้อดีของการใช้เทอร์โบเข้ามาช่วยคือ อัตราเร่งแซงที่ทันใจมากๆ นึกจะแซงขอแค่มีระยะปลอดภัยก็คิกดาวน์เท่านั้น พลังมหาศาลที่ไม่รู้ซุกมาจากไหนก็ปล่อยออกมาตามเท้าทันที และมั่นใจได้กับระบบเบรกที่หนึบและนุ่มเท้าเบาแรงได้มาก

ในความแรงนั้นกลับเจอด้านลบนิดๆ ของช่วงล่างที่นิ่มไปสำหรับที่มีอัตราเร่งดุดันขนาดนี้ การเข้าโค้งการตอบสนองพวงมาลัยคมกริบดีมากๆ แต่กลับโดนลดความมันลงด้วยความนิ่มนวลของรถ และในความเร็วสูงๆ เมื่อเหินคอสะพานก็ต้องคอยเกร็งมือเล็กน้อย อาจเป็นเพราะต้องการเน้นผู้โดยสารได้รับความหรูหราและขับขี่ที่สะดวกสบายเป็นหลัก ตอบสนองการใช้งานในเขตตัวเมือง ซึ่งในส่วนนี้ซีวิคทำได้ดีมากๆ อยู่แล้ว 

Ford Focus 1.5 EcoBoost ฟอร์ด โฟกัสใหม่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1,498 ซีซี 16 วาล์ว จีทีดีไอ อีโคบูสต์ เทอร์โบ กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร เกียร์ 6 จังหวะ ที่กลับมาคบกับระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์แล้วทนถึกชัวร์แน่นอน ระบบช่วงล่างหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังคอนโทรล มัลติลิงค์ ดิสก์เบรก 4 ล้อ แม็ก 17 นิ้ว

ต้องบอกก่อนว่า จากความรู้สึกที่ได้สัมผัสทั้ง 2 รุ่นพบว่า ความแรงแทบไม่แตกต่างนัก โดยเจ้าโฟกัสแม้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แต่ได้เทอร์โบมาช่วยเอาไว้ก็สามารถออกตัวหรือเร่งแซงได้อย่างน่ากลัว มีอาการหน้าดึงหลังติดเบาะใกล้เคียงกัน แต่ครับแต่! เจ้าโฟกัสใหม่ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบทั่วไป จึงทำให้ความรู้สึกในขณะเร่งแต่ละเกียร์และระหว่างเปลี่ยนจังหวะอัตราทดจะให้ฟีลลิ่งดึงหงายและได้อารมณ์สนุกสนานมากกว่า แต่ความเร็วก็ไต่ระดับขึ้นไปใกล้เคียงกับซีวิค เทอร์โบ 

ความมันในอารมณ์สปอร์ตของโฟกัสมีเพิ่มขึ้นอีกด้วยการปรับปรุงช่วงล่างให้แข็งและหนืดกว่าซีวิค ส่วนพวงมาลัยก็ถูกปรับปรุงน้ำหนักใหม่ ยิ่งทำให้ควบคุมได้แม่นยำกว่ารุ่นเดิม ซึ่งก็ใกล้ๆ กับซีวิคเทอร์โบนั่นแหละ 

อย่างไรก็ตาม ในความมันของระบบเกียร์ลูกนี้ถูกดร็อปลงอีกครั้ง เพราะการเปลี่ยนเกียร์มีความหน่วงพอสมควร ในช่วงไต่ระดับความเร็วและเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นยังพอรับได้ แต่เมื่อต้องการเปลี่ยนลงหรือคิกดาวน์มีอาการ "รอ" เล็กน้อย นับว่าฟอร์ดควรปรับปรุงให้ระบบคิดและสั่งการได้ไวขึ้น เหมือนระบบ "สิริ" ในรถก็คงดี  

ความปลอดภัยทั้ง ซีวิค และ โฟกัสใหม่ มีระบบช่วยเหลือต่างๆ มากมายที่เหมือนกัน เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบเบรก ABS, ระบบเซ็นเซอร์รอบคัน, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า/ด้านข้าง/ม่านด้านข้าง เป็นต้น ซึ่งนับว่าธรรมดาสำหรับรถในเซกเมนต์นี้ไปเสียแล้ว 

ทางด้านซีวิคได้เพิ่มระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ด้วยรีโมทซึ่งเหนือกว่าฟอร์ดในจุดนี้ ส่วนทางฟอร์ด โฟกัส ยอมลงทุนติดตั้งระบบเพิ่มเติมนอกเหนือจากนั้นอีกคือ ระบบช่วยจอดแบบขนาน-นำรถออกจากที่จอด, ระบบถอยเข้าซองจอด ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ และส่วนของระบบควบคุมการทรงตัวนั้นก็ได้เพิ่มระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งของล้อคู่หน้ามาอีก 1 ตัว เป็นการลดความเร็วโดยการใช้เบรกในล้อใดล้อหนึ่งที่เซ็นเซอร์จับได้ว่าเกิดการเลี้ยวโค้งไปทิศทางใด หากมีการลื่นไถลล้อทางด้านในของโค้งนั้นจะถูกชะลอด้วยเบรก เพื่อรักษาความสมดุลของตัวรถให้ไปในทิศทางที่ต้องการ ทำให้ไม่หลุดโค้งไปเสียก่อน ระบบนี้นับว่าทันสมัยและคุ้มค่ากว่า 

รถยนต์ทั้ง 2 รุ่น ให้ความรู้สึก การตอบสนอง และการใช้งานที่คล้ายกัน ทั้งอัตราเร่ง เทคโนโลยีภายใน ความบันเทิงต่างๆ ที่ครบครัน เป็นใครก็คงเลือกยาก แต่ถ้าสัมผัสลึกๆ แล้วรถยนต์ 2 รุ่นนี้มีบุคลิกที่ต่างกัน

ฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ อาร์เอส ให้ความสุขุมนุ่มลึก เรียบง่าย หรูหราและกว้างขวาง ความปลอดภัยระดับมาตรฐาน ราคา 1,199,000 บาท แต่หากไม่ต้องการชุดแต่งโหดๆ ก็เลือกรุ่นรองลงมากคือ ฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ ราคา 1,099,000 บาท (อ่านรีวิวฮอนด้า ซีวิค เทอร์โบ)

ส่วน ฟอร์ด โฟกัสใหม่ มาแนวสปอร์ต ดุดัน สไตล์ยุโรป ช่วงล่วงหนึบ เทคโนโลยีความบันเทิงครบๆ แต่ความปลอดภัยได้เกินรถในระดับเดียวกันและปัจจุบันมีเพียงรุ่นเดียวให้เลือก คือ Ford Focus 1.5L Ecoboost ราคา 1,099,000 บาท (อ่านรีวิวฟอร์ด โฟกัสใหม่)

หมายเหตุ: ราคาของรถในบทความเป็นราคา ณ วันที่ 5 ก.ค. 59

เปรียบเทียบสเปค Honda Civic 1.5L turbo และ Ford Focus 1.5L Ecoboost

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Honda Civic ทุกรุ่น

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Ford Focus ทุกรุ่น