รถบรรทุกขนาดใหญ่ ขึ้นทางชันไหวได้อย่างไร?
เราคงเคยเห็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ขับขึ้นภูเขาหรือทางที่มีลักษณะสูงชันมากๆ ได้อย่างสบายๆ ทั้งที่มีสิ่งของอยู่เต็มรถ แม้กระทั่งรถพ่วงหรือรถหัวลาก ซึ่งรถบรรทุกเหล่านี้ล้วนมีกำลังแรงม้าที่ไม่สูงนัก แต่ขับขึ้นทางชันได้อย่างไรนั้น ไปดูคำตอบกันเลยครับ
เครื่องยนต์รุ่นนี้ เกือบหมื่นซีซี กำลัง 280 แรงม้า แต่ดูแรงบิดมากถึง 1,765 นิวตัน-เมตร!!!
ปัจจุบันรถบรรทุกขนาดใหญ่ จะใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอลแรล เทอร์โบ ตั้งแต่ 4 สูบไปจนถึง 6 สูบ และบางรุ่นอาจใช้แบบ วี 8 สูบ นี่คือ ต้นกำลังที่ทำให้รถบรรทุกสามารถขับได้ในทุกสภาวะถนน แม้แรงม้าจะไม่สูงเท่าพวกซูเปอร์คาร์ แต่แรงบิดที่มหาศาลบวกกับระบบเกียร์ที่มีอัตราทดสูง และยังมีหลายจังหวะตั้งแต่ 9 จนถึง 10 กว่าเกียร์เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น รถบรรทุก Isuzu F-Series FVZ รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ 6 สูบเรียง มีแรงม้าเพียง 285 แรงม้า แต่ว่า แรงบิดสุดโหดมากถึง 883 นิวตัน-เมตร และเกียร์ 9 จังหวะ ทำให้สามารถขับไปได้ทุกที่แม้ทางลาดชัน ซึ่งในบางรุ่นมีมากถึง 16 จังหวะ!
แล้วจะขับอย่างไรตั้ง 16 จังหวะ? โดยทั่วไปนั้นหากรถไม่ได้บรรทุกหนักและขับในสภาพถนนปกติ ก็อาจใช้การออกตัวเริ่มต้นที่เกียร์ที่ 3 และไล่ระดับไปเรื่อยๆ เมื่อต้องการกำลังมากขึ้นก็อาจเริ่มต้นด้วยเกียร์ที่ 2 แต่หากมีสิ่งของบรรทุกหนักก็อาจเริ่มจากเกียร์ที่ 1 ส่วน Crawler gear หรือ C นั้น เป็นเกียร์พิเศษสำหรับบรรทุกหนักมากๆ และต้องใช้กำลังสูงสุดในการลากจูงหรือการเร่งออกตัวนั่นเอง
สำหรับในรถบรรทุกขนาดกลางก็อาจใช้เครื่องยนต์ที่มีระบบเกียร์ 6 จังหวะ เพราะน้ำหนักที่บรรทุกนั้นใช้เพียงกำลังของเครื่องยนต์ก็เพียงพอในการขับขึ้นทางชันได้อย่างสบายแล้ว
คงคลายข้อสงสัยไปได้บ้างกับรถบรรทุกที่มีของหนักๆ แต่สามารถขึ้นทางชันๆ ได้อย่างชิลๆ ก็เพราะมีดีทั้งกำลังแรงบิดเครื่องยนต์และระบบอัตราทดเกียร์ที่มีให้ใช้งานในทุกย่านความเร็ว นอกจากจะขับขึ้นทางชันได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ก็ต้องมีทักษะในการใช้จังหวะเกียร์เพื่อขับขึ้น-ลงทางชันอย่างเหมาะสมด้วยนะครับ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขับขี่ให้มากขึ้นไปอีกครับ