ขอ 3 น้ำ! ให้สบายใจ ก่อนไปเที่ยว
การไปเที่ยวให้สบายใจคลายหมดกังวล ก่อนอื่นต้องนำรถเข้าศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง นอกจากนี้การดูแลด้วยตัวเองก็เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำ ซึ่งก็ไม่มีอะไรยุ่งยากนักขอเพียง 3 น้ำ! คือ 1) น้ำในหม้อพักน้ำ 2) น้ำกลั่นแบตเตอรี่ และ 3) น้ำฉีดกระจก ทั้งสามอย่างนี้สามารถดูแลเองได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ส่วนเรื่องของเหลวชนิดอื่นๆ เช่น น้ำมันเครื่องยนต์, เกียร์, น้ำมันเบรก ฯลฯ ยกให้เป็นหน้าที่ของช่าง มาดูสิว่าเราต้องทำอะไรกับ 3 น้ำนี้บ้าง
1.น้ำหล่อเย็น (ระดับน้ำในหม้อน้ำ)
รถยนต์สมัยใหม่มักเติมน้ำระบายความร้อน (น้ำหล่อเย็น) ในถังพักน้ำ ไม่ค่อยนิยมเติมที่ฝาปิดตรงหม้อน้ำโดยตรงแล้ว ดังนั้นควรดูระดับน้ำในหม้อพักหรือกระบอกพักน้ำ ให้อยู่ในระดับปกติ-FULL (หรือบางรุ่นใช้คำว่า MAX) หากต่ำหรือลดลงมาเกินระดับ-MIN ให้เติมพอดีกับระดับ MAX ห้ามเติมเกินจนล้นนะครับ เพราะเมื่ออุณหภูมิน้ำสูงมากๆ น้ำจะเพิ่มขึ้นจนอาจล้นออกมาหมด และทำให้น้ำในระบบแห้ง อย่าลืม! เติมแค่พอดีระดับ MAX เท่านั้นและปิดฝาให้สนิทด้วยนะครับ
ถังพักน้ำใช้สำหรับดูระดับและเติมน้ำ (บ้างรุ่นอาจเป็นทรงกระบอก)
อันนี้ฝาเติมบนหม้อน้ำไม่จำเป็นไม่ควรเปิดเดี๋ยวจะปิดไม่สนิทล่ะยุ่งเลย!
2. น้ำกลั่นแบตเตอรี่
สำหรับแบตเตอรี่รุ่นที่มีฝาแบบเปิดออกได้ ไม่ว่าจะคนขายจะบอกว่าเป็นแบตเตอรี่กึ่งแห้ง ฟรีเมนเทนแนนซ์ จะกึ่งเปียกหรืออะไรก็ตาม ถ้าหากมีฝาที่เปิดออกได้แสดงว่าจำเป็นต้องดูและเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับปกติ หากฝาปิดเป็นแบบฝังลงไปให้ใช้เหรียญหมุนออกมา และเติมให้ระดับน้ำกลั่นแตะขอบล่างของช่องเติมพอดี อย่าเติมจนล้นเด็ดขาดครับ
ระดับน้ำกลั่นจะแตะขอบล่างของช่องเติมพอดี ห้ามเกินนะครับ
3. น้ำฉีดล้างกระจก
การเดินทางไม่ว่าแดดจะแรง ฝนไม่ตกก็ตาม ควรเติมระดับน้ำฉีดล้างกระจกให้เต็มพร้อมใช้เสมอ เพราะระหว่างทางอาจเจอสภาพอากาศที่คาดไม่ถึง หรือละอองน้ำ ฝุ่นต่างๆ เกาะติดกระจกบังลมหน้า หรือกระจกหลัง (สำหรับตัวถังแฮตช์แบ็ก) ทำให้บังการมองเห็น อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เมื่อกระจกเริ่มขุ่นมัวเราสามารถเปิดสวิตช์ฉีดล้างกระจกได้ทันที และถ้าน้ำแห้งบ่อยๆ จะส่งผลให้มอเตอร์ปั๊มน้ำเสื่อมสภาพเร็วขึ้นครับ
ที่ฝากระบอกฉีดกระจกจะมีรูปเหมือนน้ำพุด้วย
บางรุ่นเป็นสีฟ้า