การเตรียมพร้อมขับรถทางไกล
เรารู้ว่าคุณคงอ่านบทความแนะนำการขับรถทางไกลมาเยอะ แต่บทความนี้เขียนเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทั้งยานยนต์ สังคม และเทคโนโลยีรอบตัว เน้นประยุกต์ใกล้เคียงกับการใช้ชีวิตขับรถประจำวันของคนเมือง
คนขับพร้อมทั้งกายและใจ
การขับรถทางไกลในช่วงเทศกาลอาจใช้เวลาการเดินทางมากกว่าปกติ โดยทั่วไปผู้ขับมักทราบเวลาที่ใช้ในการเดินทางโดยประมาณ แต่เมื่อเจอรถติดอาจต้องบวกเวลาเพิ่ม ร่างกายและจิตใจจึงมีบทบาทสำคัญ ดังนั้นจึงควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทางหลายวัน และระวังเรื่องอาหารที่เสี่ยงต่อระบบขับถ่าย ตลอดจนสภาพจิตใจที่ไม่ควรมีเรื่องใดมารบกวนให้เสียสมาธิระหว่างขับ (พยายามจัดการเรื่องรบกวนต่างๆ ให้จบก่อนเดินทาง)
เซอร์วิสและทดสอบรถให้พร้อมจริง
ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่ก้าวหน้าไปมาก หลายคนอาจติดกับความเชื่อเดิมๆ ในการดูแลรักษารถหลายอย่าง แต่โลกเปลี่ยนไป รถยุคใหม่ควรได้รับการดูแลที่ถูกต้อง การนำเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เหมือนคนไม่สบายแล้วไปรักษากับแพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาลย่อมดีกว่าการไปคลินิก ดังนั้นการนำรถเข้าตรวจสอบและแก้ไขที่ศูนย์บริการย่อมได้มาตรฐานดีกว่า ทั้งยังได้การรับประกันงานซ่อม และใช้อะไหล่แท้ ค่าแรงก็ไม่ต้องเดาเพราะกำหนดไว้แล้ว ถ้าไม่ใช่รถเก่าที่มีอู่หรือร้านคุ้นเคยจริงๆ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการดีกว่า และควรเข้าก่อนวันออกเดินทางอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อนำมาลองวิ่งให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนใดต้องแก้ไขเพิ่มเติมอีก ส่วนการตรวจเช็คสภาพรถด้วยตนเองในยุคนี้คงมีน้อยคนที่เปิดฝากระโปรงทำอะไรมากไปกว่าเติมน้ำกลั่น แต่อย่างน้อยก็ควรเดินวนรอบรถดูสิ่งผิดปกติก่อนขับ
เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินประจำรถและข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน
แม้ไม่มีใครอยากใช้ และไม่ค่อยได้ใช้ แต่สารพัดอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น แม่แรง ยางอะไหล่ ไฟส่องสว่าง (เดี๋ยวนี้มีแบบ LED ขายหลากหลายแบบ) สายพ่วงแบตเตอรี่ ฯลฯ ควรมีครบและอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ ถ้ามีเวลาอยากแนะนำให้ลองซ้อมเปลี่ยนยางเองสักครั้งก็จะเป็นประโยชน์เวลาเจอสถานการณ์จริง แต่ถ้าไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ ก็อาจพึ่งบริการช่วยเหลือ Road Assistance 24 ชม. ซึ่งหลายๆ ยี่ห้อรถก็มีไว้ให้บริการกันอยู่แล้ว รวมไปถึงบันทึกเบอร์ช่วยเหลือต่างๆ ไว้ในโทรศัพท์มือถือ และเขียนหรือพิมพ์ลงกระดาษพกติดรถไว้
การวางแผนเส้นทางที่ใช้
การวางแผนเส้นทางการเดินทางควรเลือกเส้นทางที่สะดวกและปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งมักเป็นถนนสายหลัก แม้บางครั้งปริมาณรถอาจหนาแน่นกว่าถนนสายรองหรือทางลัด แต่ถ้าไม่หนักหนาเกินไป ย่อมดีกว่าเพราะมีร้านค้าและจุดบริการต่างๆ พร้อมมากกว่าเส้นทางสายรอง แต่ถ้ามีเหตุให้เลี่ยงจากเส้นทางใดเส้นทางหนึ่ง เดี๋ยวนี้ก็มีตัวช่วยมากมาย อย่างระบบนำทาง GPS หรือดู Google Map จากสมาร์ทโฟนของคุณเองให้ช่วยนำทางให้ไม่ต้องกลัวหลง
การรักษาสมาธิระหว่างขับ
การขับรถทางไกลนอกจากไม่ง่วง ไม่เมา สิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้ามคือ ต้องมีสมาธิ โดยเฉพาะการมีผู้โดยสารร่วมเดินทางไปด้วยหลายคน เช่น เพื่อน และครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าต้องชวนกันคุยอยู่แล้ว บางครั้งบางคราวการพูดคุยนี้ก็เบี่ยงความสนใจของผู้ขับให้เสียสมาธิได้ ดังนั้นผู้โดยสารควรมีส่วนสนับสนุนให้เกิดการขับขี่อย่างปลอดภัย ชวนคุยแต่พอดี และช่วยดูเส้นทาง อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับในเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม
ใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์
ในยุคที่หลายคนใช้สมาร์ทโฟนและมักเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น Facebook, Line, Instagram, Twitter และอื่นๆ เป็นประจำ ซึ่งช่วยให้การติดต่อสื่อสารมีความสะดวกมากขึ้น และในด้านการเดินทางก็มีส่วนช่วยได้มากเช่นกัน เช่น การส่งภาพสถานที่จริงแบบเรียลไทม์ อัพเดตสถานการณ์เกี่ยวกับเส้นทางการเดินทาง ณ ขณะนั้น หรือบันทึกภาพที่เป็นจุดสำคัญและสังเกตได้ง่ายตามสถานที่ต่างๆ และอัพเดตลงโซเชียล เผื่อว่าเวลาเกิดปัญหา ยังพอเป็นข้อมูลให้ติดตามได้ โดยเฉพาะเวลาไปในเส้นทางห่างไกลชุมชน หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตัวผู้ขับไม่ควรใช้โทรศัพท์ระหว่างขับเด็ดขาด ให้ผู้ร่วมทางมีส่วนช่วยในจุดนี้ดีกว่า
การขับทางไกลให้ปลอดภัย ผู้ขับเป็นส่วนสำคัญที่สุด แต่ผู้ร่วมเดินทางก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน ดังนั้นในการเดินทาง ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารควรเอาใจใส่ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง เพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย