MG ยนตรกรรมระดับตำนานที่ทั่วโลกหลงใหล

รถยนต์ MG เป็นแบรนด์ดังอันเลื่องชื่อจากอังกฤษที่ผสานความคลาสสิกและความเป็นรถแข่งเข้าด้วยกัน โดยมีเครื่องยืนยันจากประสบการณ์กว่า 90 ปี และการคิดค้นพัฒนารถยนต์เพื่อความสำเร็จจากสนามแข่ง Le Mans 24 Hours สู่ถนนให้ได้สัมผัสถึงสมรรถนะที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ "MG"

เริ่มต้นจาก 2 ผู้ก่อตั้ง วิลเลี่ยม มอร์รีส และเซซิล คิมเบอร์ ร่วมสร้าง MG ขึ้นใน 1924 ที่ประเทศอังกฤษ ด้วยความเชื่อว่า รถยนต์ MG จะมอบประสบการณ์ที่โดดเด่น ทั้งความสนุก อิสระ และสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร

วิลเลี่ยม มอร์รีส

เซซิล คิมเบอร์

MG เป็นบริษัทที่มีต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษมุ่งคิดค้น และผลิตรถยนต์ตั้งแต่ในอดีตช่วงปี 1924 จนถึงปัจจุบัน มีรถยนต์ในไลน์การผลิตมาแล้วถึง 12 รุ่น และจำหน่ายทั่วโลก

MG เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์แนวคลาสสิกว่า รถยนต์ MG มีเอกลักษณ์ความคลาสสิกที่เป็นอมตะตลอดกาลตั้งแต่รุ่นแรกอย่าง Old Number One ที่สร้างขึ้นเพื่อลงแข่งขันใน Lands End Trial เมื่อปี 1925 และคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาครองได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็เริ่มผลิตรุ่นอื่นๆ ในสไตล์ที่เป็นของตัวเองจนโด่งดัง

MG TD

K3 Magnette เป็นรุ่นที่สร้างชื่อให้กับเอ็มจี ได้รับการบันทึกลงในการแข่งขัน Le Mans ว่าสามารถเอาชนะทีม เฟอร์รารี่ โดยทำความเร็วได้ถึง 105 กม./ชม. และยังคงตราตรึงในทุกสนามการแข่งขันของรุ่นเครื่องยนต์เล็ก

โดยช่วงปี 1952 - 1962 รถสปอร์ตรุ่นที่สร้างยอดขายได้มากเป็นประวัติกาลคือ MGA รถสปอร์ต 2 ประตูเปิดประทุนที่ใช้โคลงเหล็กทั้งคัน ทำยอดขายได้ถึง 100,000 คัน  

ต่อมาในปี 1962 - 1980 MG ได้ผลิตรถรุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นอีกรุ่นนั่นคือ MGB GT V8 โดยใช้เครื่องยนต์อลูมินัมอัลลอยด์ของโรเว่อร์ วี8 สูบ 3,258 ซีซี 193 แรงม้า น้ำหนักเบา ประหยัดน้ำมัน และควบคุมง่าย 

และยังมี MG Midget รถสปอร์ตขนาด 2 ที่นั่ง ที่ครองใจผู้ขับขี่ ด้วยความสวยแบบรถสปอร์ตรุ่นท็อป ในราคาที่คนธรรมดาครอบครองได้ โมเดลแรกคือ MG Midget Mk I เครื่องยนต์ 950 ซี.ซี. (1961-1964) ตามมาด้วย MG Midget Mk II เครื่องยนต์ 1100 ซี.ซี.จนกระทั่งปี 1974 ก็ถึงเวลาของ MG Midget 1500 ที่เพิ่มความจุกระบอกสูบเป็น 1493 ซี.ซี. นับเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดสหรัฐอเมริกา

สำหรับในประเทศไทยนั้น หลายคนอาจเคยเห็นรถยนต์ MG รุ่น MGF ซึ่งเคยมีจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อประมาณช่วงปี 1995 เจ้า MGF เป็นรถสปอร์ต 2 ประตู เปิดประทุน เครื่องยนต์วางกลางลำตัว ทำให้ควบคุมง่าย พร้อมระบบช่วงล่างแบบไฮดราก๊าซ เทคโนโลยีเพื่อความสมบูรณ์แบบ และเกาะถนนเป็นเยี่ยม และหลังจากนั้น MG ก็ผลิตรุ่นต่างๆ จำหน่ายในหลายประเทศ เช่น MG ZR สปอร์ตแฮตช์แบ็ก 3/5 ประตู เครื่องยนต์ K-Series ความจุตั้งแต่ 1.4 - 1.8 ลิตร และดีเซล 2.0 ลิตร แต่น่าเสียดายที่ไม่มีนำเข้ามาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ และรุ่น MG7 ซึ่งมีต้นแบบจากรถยนต์โรเวอร์ 75 ที่คลาสสิกหรูหราสไตล์อังกฤษ 

ยนตรกรรมอังกฤษสุดคลาสสิกสู่ถนนเมืองไทย

เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP Group กลุ่มธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1921 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาองค์กรได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขยายรูปแบบธุรกิจไปในแขนงต่างๆ มากกว่า 14 อุตสาหกรรมทั่วโลก ก้าวต่อไปของบริษัทเมื่อเข้ามาพัฒนาธุรกิจกลุ่มยานยนต์ จึงมุ่งผลิตรถยนต์คุณภาพที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งในด้านคุณภาพ ราคา การบริการหลังการขาย การซ่อมบำรุงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยการเพิ่มความมั่นใจด้วยโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการทันสมัย 14 สาขา ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG CALL CENTER) ครบถ้วนในช่องทางเดียว ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ของเอ็มจี คือศูนย์กลางที่รวบรวมช่องทาง การติดต่อโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ พร้อมช่วยประสานงานให้คุณได้รับบริการอย่างรวดเร็ว และยังมีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถเอ็มจี ทั้งรายละเอียด ราคาอุปกรณ์ตกแต่งและโปรโมชั่นต่างๆ เบอร์เดียวอุ่นใจได้

พร้อมดูแลคุณทุกเวลา บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง

• บริการให้คำแนะนำเบื้องต้นทางเทคนิค ตอบปัญหาด้านรถยนต์ในกรณีฉุกเฉิน พร้อมการบริการช่วยเหลือนอกสถานที่ โดยช่างเทคนิคที่พร้อมช่วยคุณแก้ปัญหาได้ทันที
• บริการเคลื่อนย้ายรถไปยังศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด โดยไม่จำกัดระยะทาง
• บริการเติมน้ำมัน กรณีที่น้ำมันหมด (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)

NETWORK & SERVICE บริการที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของคุณ บริการระดับยุโรป มาตรฐานเดียวทั่วโลก รถยนต์เอ็มจีในทุกประเทศทั่วโลก ต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน บุคลากรของเอ็มจีทุกคนผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี เพื่อให้มีความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และพร้อมที่จะให้บริการคุณให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ไร้กังวลทุกเส้นทาง อุ่นใจด้วยคลังอะไหล่กว่า 100,000 รายการบนถนนบางนา-ตราด จัดส่งอะไหล่กว่า 100,000 รายการ ถึงศูนย์บริการทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็วด้วยศูนย์กลางการจัดเก็บอะไหล่บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร ไม่เพียงเท่านั้นเอ็มจียังตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย คุณจึงมั่นใจได้ว่าทุกสิ่งอยู่ใกล้มือ

MG แตกต่างด้วยสายเลือดอังกฤษ ไม่ใช่แค่เร็วและแรง แต่แฝงความละเมียดและลุ่มลึกด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานอังกฤษรอบคันและดีไซน์โดดเด่นที่แฝง Aerodynamic ไว้ในทุกเส้นสาย

จากในอดีตสู่ยุคปัจจุบัน รถยนต์เอ็มจีถูกสร้างให้มีเสน่ห์น่าค้นหา และทำให้คนทั่วโลกหลงรักมาแล้ว ทั้ง MG3 ที่ได้รับการออกแบบ และพัฒนาตามแนวคิด Brit Dynamic (บริท ไดนามิก) มาตรฐานใหม่ในการขับขี่ที่มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ในด้านสมรรถนะ การควบคุม ดีไซน์ และความปลอดภัย โดยทีมวิศวกรกว่า 300 คน และนักออกแบบกว่า 60 คน เพื่อสร้างสรรค์ให้เป็นรถยนต์ที่นำสมัยมีความโดดเด่น และแตกต่าง ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รุ่นใหม่ได้ในทุกวัน มีสีภายนอกแบบทูโทนให้เป็นทางเลือกของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ภายในอุปกรณ์ครบครัน มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTi-TECH 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ ที่ให้ทั้งประสิทธิภาพ และการประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ SeleMatic (เซเลเมติก) พร้อมระบบปรับโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต และแบบแมนวล (Manual) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองได้ รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

อีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของ MG นั่นคือ MG6 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบเทอร์โบ 1.8 ลิตร ทันสมัยสปอร์ตเฉียบคมสไตล์ยุโรป สุดยอดสมรรถนะการขับขี่ที่มอบพลังแห่งการควบคุม พร้อมติดตั้ง "inkaNet" นวัตกรรมการสื่อสารอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ระหว่างผู้ขับขี่กับรถยนต์เอ็มจีครั้งแรกในประเทศไทย New MG6 คือนิยามใหม่แห่งสมรรถนะการบังคับควบคุมและความสะดวกสบายที่เหนือระดับ เพิ่มความโดดเด่นและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ด้วยไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Light) และสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเส้นโครงหลังคาที่ลาดต่ำลง โฉบเฉี่ยวกับกันชนหลังพร้อมไฟท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่สุดเท่

New MG6 แรงเร้าใจด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 161 แรงม้า (118 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission) ที่เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว นุ่มนวลในทุกการขับขี่ ทรงตัวดีเยี่ยมด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันและด้านหลังแบบ Z-Type มัลติลิงก์ พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือระดับด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก 5 ฟังก์ชั่น ได้แก่ ระบบ Auto Hold เพิ่มความสะดวกในการขับขี่ขณะจราจรคับคั่ง และป้องกันรถไหลเมื่อต้องขึ้นทางลาดชัน ระบบแจ้งเตือนทิศทางของพวงมาลัยหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ (Steering Wheel Reminder) ระบบควบคุมแรงบิดของล้อในขณะเข้าโค้ง DWTC (Dynamic Wheel Torque Control) มั่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องหักหมุนพวงมาลัยเพิ่มขึ้นในขณะเข้าโค้ง ไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยว (Cornering Lights) และระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto-Leveling Headlights) มั่นใจด้วยโครงสร้างพิเศษ พร้อมคานเหล็กนิรภัยด้านข้าง และถุงลมนิรภัย 6 จุด ทำให้ห้องโดยสารเป็นโซนนิรภัยปกป้องทุกคนในรถขณะเกิดอุบัติเหตุ

ภายใน New MG6 ดีไซน์ใหม่มาใน 2 บุคลิก 2 โทนสี ทั้งโทนสีดำและสีเบจ โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยคอนโซลหน้าสีเทาเข้มพร้อมจอมาตรวัดดีไซน์ใหม่ ครบทุกฟังก์ชันความบันเทิงทั้ง CD และ MP3 หน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง บลูทูธ กล้องมองหลัง และลำโพงคุณภาพสูง 8 ตำแหน่ง รองรับ USB และ AUX ช่วยเพิ่มความบันเทิง และความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

MG3 แบ่งเป็นรุ่นแฮตช์แบ็ก (Hatchback) 5 ประตู และรุ่นครอส (Xross) มาพร้อม 6 สีสดใส คือ ขาว - Arctic White, เงิน - Platinum Silver, ดำ - Pitch Black, แดง - Regal Red / White Top, เหลือง - Tudor Yellow / Black Top และฟ้า - Thames Blue / White Top

• MG3 C (รุ่นเริ่มต้น) ราคา 479,000 บาท
• MG3 D (กลาง) ราคา 509,000 บาท
• MG3 X (ท็อป) พร้อมหลังคาซันรูฟ ราคา 559,000 บาท
• MG3 Xross X พร้อมหลังคาซันรูฟ ราคา 595,000 บาท

MG6 มีให้เลือกถึง 5 สี คือ แดง - Regal Red, ดำ - Pitch Black, เทา - Granite Grey, เงิน - Platinum Silver และ ขาว - Arctic White พร้อมทั้งสีทูโทน 1 สี คือ Arctic White / Black Top

ราคารุ่นฟาสต์แบ็ค (Fastback) / ซีดาน (Sedan)

• MG6 1.8 C ราคา 828,000 บาท / 818,000 บาท
• MG6 1.8 D ราคา 908,000 บาท / 898,000 บาท
• MG6 1.8 D Sunroof ราคา 938,000 บาท / 928,000 บาท
• MG6 1.8 X ราคา 1,008,000 บาท / 998,000 บาท
• MG6 1.8 X Sunroof ราคา 1,038,000 บาท / 1,028,000 บาท

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่นรถยนต์ MG ทุกรุ่น