ฉายาชื่อเล่นน่ารักๆ เรียกรุ่นรถในตำนาน
รถยนต์แต่ละรุ่นมักมีการออกแบบรูปทรงที่แตกต่างกันไปตามยุคสมัย และการออกแบบของรถในบางรุ่นอาจมีจุดเด่นเฉพาะตัว จึงทำให้ถูกตั้ง "ฉายา" หรือ "ชื่อเล่น" เพื่อใช้เรียกกันในกลุ่มผู้ชื่นชอบรถยนต์ และเริ่มกระจายออกไปเป็นวงกว้างเรื่อยๆ ฉายาเหล่านี้มักมาจากรูปร่างหน้าตาของรถรุ่นนั้น หรือยุคสมัยของรถรุ่นนั้นที่ออกจำหน่ายตรงกับเหตุการณ์ต่างๆ รวมทั้งจากภาพยนตร์โฆษณาของรถรุ่นนั้น ไม่เว้นแม้แต่รถรุ่นที่ปรากฎในการ์ตูนสมัยเด็กๆ
"ฉายา" หรือชื่อเรียกแทนรุ่นรถนั้นไม่มีใครทราบต้นตอที่แท้จริงว่าใครเป็นผู้คิดค้น แต่เริ่มมาจากวงการซื้อ/ขายในสมัยก่อน ที่เรียกลักษณะเฉพาะของรถรุ่นนั้นๆ ที่ มีรุ่นย่อยมากมายก่ายกอง ให้จำง่ายไม่สับสนและให้เข้าใจตรงกัน
วันนี้เช็คราคา.คอม เลยนำส่วนหนึ่งของฉายารถยนต์รุ่นดังๆ ในอดีตมาให้ดูกันครับว่ามีอะไรกันบ้าง
MERCEDES BENZ
Mercedes Benz - เมอร์เซเดส เบนซ์ รถยุโรปสุดหรูหราตลอดกาล ที่มีรุ่นย่อยมากมายก่ายกองจนคนในวงการต่างต้องหาจุดเด่นในแต่ละรุ่นมาใช้เรียกให้จำง่ายๆ มีอะไรบ้างไปดูกันครับ
W 110 - เบนซ์หางปลา เมอร์เซเดส เบนซ์ ยุคแรกๆ ที่มีการออกแบบช่วงท้ายให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยช่วงท้ายเป็นสันเหลี่ยมยาวและปลายแหลมดูคล้ายหางของปลา จึงถูกเรียกว่าง่ายๆ ว่า "เบนซ์หางปลา"
W115/8 - เบนซ์ตาตั้ง /ทับ8 /ตั๊กแตน เมอร์เซเดส เบนซ์รุ่นเก๋านี้ มีไฟหน้าทรงรีแนวตั้ง จึงเรียกกันว่า "เบนซ์ตาตั้ง" และไฟหน้าก็ยังคล้ายกับตาของตั๊กแตน จึงถูกเรียกว่า "ตั๊กแตน" อีกด้วย นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่รู้ลึกไปอีกนิดก็จะเรียกตามชื่อรุ่นรหัสตัวถังว่าเบนซ์ทับ8 ซึ่งก็มาจากรุ่น W115/8 นั่นเอง
W124 - โลงจำปา เมอร์เซเดส เบนซ์รุ่นนี้คือ E-Class ซึ่งมีตั้งแต่รหัส 230E, 300E, และรุ่นหลังๆ สลับตัวอักษรให้ดูทันสมัยขึ้นเป็น E200, E220, E280 ไปเรื่อยๆ จนถึง E500 หรือ บางประเทศมี E600 ด้วย เมื่อมองในมุมด้านท้ายจะดูคล้ายโลงศพของชาวจีน จึงเรียกกันติดปากว่า "เบนซ์รุ่นโลงจำปา" แม้ฉายาจะดูหดหู่แต่เป็นรุ่นดูดทรัพย์นะครับเพราะสมัยนั้นคนที่ใช้รุ่นนี้มักเป็นเศรษฐีทั้งนั้น
เมอร์เซเดส เบนซ์ C-Class รุ่น "ตาถั่ว" - มีถั่วมั้ย! W203 - ตาถั่ว เมอร์เซเดส เบนซ์ C-Class รุ่นนี้รูปทรงค่อนข้างทันสมัยและสปอร์ตมากขึ้นไม่ดูแก่เหมือนเมื่อก่อน มีตั้งแต่รหัส C180, C180 Kompressor, C200, C200 Kompressor, C240 ไปจนถึง รุ่น Brabus V8 การออกแบบไฟหน้าที่ทรงกลมเชื่อมกันแบบไร่รอยต่อ สวยงามลงตัว แต่กลับเข้าตาผู้ตั้งฉายาว่าดูเหมือนเม็ดถั่วต้ม ก็เลยถูกเรียกว่า เบนซ์ตาถั่วซะเลย
นี่เป็นแค่ตัวอย่างฉายาเพียงบางรุ่นของรถเมอร์เซเดส เบนซ์ที่เอามาให้ดูกันครับ จริงๆ แล้วยังมีอีกมากมายหลายรุ่นเช่น "เบนซ์ตากลม" คือ อีคลาส รหัส W210 เป็นต้น ซึ่งคงบรรยายได้ไม่หมดแน่ครับ
.jpg)
เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่นนี้เรียกกันว่า "เบนซ์ตากลม"
MITSUBISHI
Mitsubishi - มิตซูบิชิ ค่ายนี้ก็มีตำนานเก่าแก่มากพอสมควร และมีรถยนต์หลายรุ่นที่รูปทรงเปลี่ยนไปตามยุคสมัยวงการรถยนต์ในบ้านเราตั้งชื่อเล่นให้เรียกกันง่ายๆ ในหลายรุ่น เช่น
Mitsubishi Lancer - กล่องไม้ขีด มิตซูบิชิ เลนเซอร์ผลิตออกมาหลายรุ่นหลายเจเนอเรชั่นแล้ว และในรถรุ่นแรกๆ ก็มักจะเรียกฉายากันเพื่อให้จำง่ายๆ อย่างรุ่นนี้ที่ถูกเรียกว่ากล่องไม้ขีดนั้นก็เพราะรูปทรงเมื่อมองไปแล้ว มันเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมเอามากๆ เลยถูกเรียกชื่อนี้เป็นประจำจนคนคุ้นเคยกันไปแล้ว ส่วนต้นกำหนิดหรือผู้ที่ตั้งชื่อคนแรกนั้นก็ไม่อาจรู้ได้ครับว่าเป็นใคร
Mitsubishi L200 - มิตซูเฉินหลง มิตซูบิชิ L200 รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ใช้โฆษณาสื่อถึงความทรงพลัง ความคล่องตัว บึกบึน เช่นเดียวกับดารานักบู๊ "เฉินหลง" นั้นเอง คนในวงการจึงเรียกกันว่า "มิตซูรุ่นเฉินหลง"
Mitsubishi Lancer - ECAR มิตซูบิชิ แลนเซอร์ (อีคาร์) ชื่อนี้เป็นการเรียกจากรหัสตัวถังที่ขึ้นต้นด้วย E-CB.. E-CN ฯลฯ ในแต่ละรุ่นของแลนเซอร์ในยุคนั้น และสันนิษฐานกันว่ามาจากวงการผู้นำเข้าอะไหล่เก่าจากญี่ปุ่นหรือเชียงกงใช้เรียกรหัสตัวถังหรือชิ้นส่วนอะไหล่ของรถรุ่นนี้ที่มากับตู้สินค้าในยุคนั้น และเรียกกันติดปากเรื่อยมาเวลาจะเลือกซื้อหาอะไหล่ของรุ่นนี้นั่นเอง
Mitsubishi Lancer - ท้ายเบนซ์ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ รุ่นต่อจากยุคของอีคาร์ หนึ่งในจุดเด่นหลักที่จำง่ายนั่นคือ ไฟท้ายที่ละม้ายคล้ายกับเมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น C-Class W202 โดยบังเอิญ (หรือเปล่า) จึงเป็นชื่อเรียกที่รับรู้กันในวงกว้างว่าเป็นแลนเซอร์โฉมนี้
HONDA
Honda - ฮอนด้า รถยนต์ที่มียอดขายรดต้นคอเจ้าตลาดอย่างโตโยต้าก็มีรุ่นที่ดังๆ หลายรุ่น และมีชื่อเรียกเฉพาะตัวเช่นกัน มีอะไรบ้าง ไปดูกันครับ
Civic EG
Civic EF Honda Civic - เตารีด/EG/3Door ฮอนด้า ซีวิคโฉมนี้เป็นรุ่นยอดฮิตติดชาร์จอันที่หนึ่งของกลุ่มวัยรุ่นในยุคนั้นที่นำมาจับแต่งมากที่สุด และจากรหัสตัวถังที่ใช้คือ EG ทำให้คนในวงการจึงใช้เรียกรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นแบบ 3 หรือ 4 ประตู แต่หากรุ่น 3 ประตูมักถูกเรียกอีกแบบว่า 3 Door มากกว่าเพราะเป็นรถแบบ 3 ประตูชัดเจนกันไปเลย แต่ที่น่าฉงนคือ มีการเรียกว่ารถรุ่นนี้ว่า "เตารีด" ซึ่งบางมุมก็ดูคล้ายอยู่บ้าง และก็กลายเป็นลัญลักษณ์ของรถรุ่นนี้ไปโดยปริยาย แต่จริงๆ แล้วดูเหมือนว่า รุ่นตัวถัง EF น่าจะเหมือนเตารีดมากกว่านะครับ
Honda Civic - ตาโต ฮอนด้า ซีวิค ตาโต เป็นรุ่นต่อเนื่องจาก EG ใช้รหัสตัวถัวเป็น EK เป็นที่นิยมไม่แพ้รุ่นก่อนหน้า จุดที่ทำให้ถูกเรียกว่ารุ่น "ตาโต" คือ รุ่นนี้ออกแบบไฟหน้าขนาดใหญ่กว่ารุ่นเดิมนั่นเอง
Honda Accord - ตาเพชร ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนเนอร์เรชั่นที่ 4 (G4)ด้วยรูปทรงเหลี่ยมๆ ประกอบกับไฟหน้าที่ออกแบบมาเป็นมัลติรีเฟลกเตอร์พร้อมที่ครอบหลอดไฟเป็นทรงหลายเหลี่ยมคล้ายกับเพชรเม็ดงาม จึงถูกตั้งชื่อเล่นว่า "แอคคอร์ด ตาเพชร"
Honda Accord - งูเห่า ฮอนด้า แอคคอร์ดรุ่นเจเนอเรชั่นที่ 6 (G6) เป็นรุ่นที่มีการออกแบบรูปทรงที่สวยและแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้ามาก ตัวรถสูงโปร่งและกว้างขึ้น ไฟหน้าทรงเหลื่ยมขนาดใหญ่ขึ้น และไฟท้ายขนาดใหญ่ แต่ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนกับฉายารุ่น "งูเห่า" และไม่ทราบถึงที่มาของชื่อเรียกนี้ ส่วนมากเป็นการเรียกกันในวงการเต็นท์รถมือสอง
สำหรับตำนานฉายาของฮอนด้ายังมีอีกหลายรุ่น เช่น ฮอนด้า แอคคอร์ดไฟท้ายก้อนเดียว/สองก้อน และอื่นๆ อีกมากมาย เลยครับ
.jpg)
ฮอนด้า แอคคอร์ดไฟท้ายก้อนเดียว
.jpg)
ฮอนด้า แอคคอร์ด์ไฟท้ายสองก้อน
TOYOTA
Toyota - โตโยต้า เป็นรถที่มีรุ่นย่อยมากที่สุดทั้งรถเก๋ง กระบะ ฯลฯ ขอยกตัวอย่างเพียงบางรุ่นที่เป็นตำนานแห่งความโด่งดังในอดีตที่ผ่านมาครับ
Toyota Crown - ปลากระโห้ โตโยต้า คราวน์ โฉมปี 1971 เป็นรถหรูขนาดใหญ่ในสมัยนั้น รูปทรงดูบึกบึน แข็งแรง และตัวถังที่ใหญ่ พร้อมหน้าตาที่ดูก็คล้ายปลากะโห้ ซึ่งปลากระโห้เป็นปลาน้ำจืดชนิดมีเกล็ดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และหน้าตาอาจดูคล้ายๆ กัน รถรุ่นนี้ก็เลยถูกเรียกว่าปลากระโห้ครับ

Corolla AE92 รุ่น "โดเรมอน"
_CSi_sedan_01%20(650x339).jpg)
Corolla AE101 "สามห่วง" เพราะเป็นรุ่นแรกที่ใช้โลโก้ใหม่แบบวงกลม 3 วงซ้อนกัน
.jpg)
Corolla AE 111 "ตูดเป็ด" เพราะมีฝากระโปรงท้ายที่กระดกขึ้นเล็กๆ เหมือนหางของเป็ด
Toyota Corolla - โดเรมอน โตโยต้า โคโรล่า โฉมแบนก่อนเปลี่ยนโลโก้เป็นแบบ 3 ห่วง ซึ่งมีที่มาหลากหลายกระแสว่าฉายานี้มาจากความอเนกประสงค์ของรถรุ่นนี้ที่หาอะไหล่ง่ายมีทุกชิ้นเหมือนกับกระเป๋าของโดเรมอนที่มีของทุกอย่างได้ดั่งใจ ส่วนอีกกระแสหนึ่งก็บอกว่ามาจากภาพวาดในหนังสือการ์ตูนโดเรมอนจะมีรถรุ่นนี้ปรากฏอยู่ในหลายๆ ตอน จึงทำให้ผู้อ่านจำได้ และเรียกกันต่อๆ มาว่ารุ่น "โดเรมอน" สำหรับโคโรล่ายังมีชื่อเรียกในอีกหลายรุ่น เช่น สามห่วง (AE101) ตูดเป็ด (AE111) เป็นต้น
Toyota Corona - ตู้เย็น โตโยต้า โคโรนา รหัสตัวถัง ST150 เป็นรุ่นแรกของตระกูลโคโรน่าที่เปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อนล้อหลังมาเป็นล้อหน้า แต่ที่พิเศษกว่าคือ มีช่องเล็กๆ พร้อมฝาปิดเอาไว้แช่น้ำให้เย็นด้วยลมจากแอร์ รถรุ่นนี้ก็เลยถูกเรียกว่า "ตู้เย็น" ครับ
ฉายาของรถโตโยต้ายังมีอีกเพียบครับ เช่น คัมรี่ "ท้ายหงส์/ไฟไม้บรรทัด/ไฟย้อย" โซลูน่า รุ่นไฟ "หยดน้ำ" โคโรน่า "หน้ายิ้ม/หน้ายักษ์/ท้ายแยก" เป็นต้น
_CSi_sedan_07%20(650x269).jpg)
โตโยต้า คัมรี่ "ท้ายหงส์" ไฟท้ายดูเหมือนเรือสุพรรณหงส์
.jpg)
โตโยต้า คัมรี่ "ไฟไม้บรรทัด" ไฟท้ายตรงเหมือนไม้บรรทัด
_CSi_sedan_02%20(650x339).jpg)
โตโยต้า คัมรี่ "ไฟย้อย" ไฟท้ายมีส่วนโค้งเพิ่มขึ้น
.jpg)
โคโรน่า "หน้ายักษ์"
.jpg)
โคโรน่า "หน้ายิ้ม"
NISSAN - DATSUN
Nissan - นิสสัน รถที่มีคาแรคเตอร์สุขุมนุ่มนวล แต่แฝงความดุดันเอาไว้ก็มีฉายากับเค้าเหมือนกัน คัดเฉพาะบางรุ่นที่เด่นๆ มาฝากกันครับ
Datsun - ช้างเหยียบ ดัทสันหรือนิสสันในปัจุบันที่จริงคือรถปิคอัพรุ่น L620 มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 และ 1.5 ลิตร เกียร์แบบกระปุกและแบบเกียร์มือ (อยู่ที่คอพวงมาลัย) ซึ่งในยุคที่จำหน่ายนั้นได้มีการถ่ายทำโฆษณาโดยใช้ช้างจริงๆ ขึ้นไปเหยียบบนกระบะหลังเพื่อสื่อถึงความแข็งแกร่งทนทานของรถรุ่นนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถหาข้อมูลหรือภาพประกอบได้ แต่จากโฆษณานี้ทำให้เจ้าดัทสัน L620 โด่งดังในชั่วข้ามคืน
Nissan - ท้ายแตงโม คือชื่อเรียกของนิสสัน ซันนี่ ซูเปอร์นีโอที่ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ช่วงประมาณปี 2003-2006 ที่มีจุดเด่นตรงไฟท้ายมีลักษณะคล้ายกับผลแตงโมผ่าซีก จึงมีผู้ตั้งฉายารถรุ่นนี้ว่า "ท้ายแตงโม" ครับ
MAZDA
Mazda - มาสด้า รถยนต์ที่สวมจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ตแฝงมากับการออกแบบรถแทบทุกรุ่น และแน่นอนย่อมมีรุ่นที่ถูกเรียกชื่อเพื่อให้จดจำง่ายจากการใช้จุดเด่นของลักษณะตัวรถ ยกตัวอย่างเช่น
Mazda - ไฟป็อบอัพ เป็นชื่อเรียกลักษณะเด่นของมาสด้ารุ่น 323 แอสติน่า (Mazda 323 Astina) ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกๆ ที่กล้าออกแบบไฟหน้าเป็นเหมือนรถสปอร์ตที่ซ่อนเรียบเสมอกับแนวฝากระโปรงหน้า เมื่่อต้องการเปิดไฟหน้ามันจะเปิดขึ้นมาโดยเรียกการเปิดไฟลักษณะนี้ว่า POP-UP จะใช้เรียกชื่อรถรุ่นนี้ไปโดยปริยายว่า "มาสด้า ไฟป๊อปอัพ" ส่วนสิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างของเจ้า 323 แอสติน่า นั่นคือ เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ที่มีกำลังสูงถึง 140 แรงม้า จนถูกใจวัยซ่านำมาแต่งซิ่งมากมายและยังมาพร้อมระบบช่วงล่างสไตล์สปอร์ตเกาะถนนสุดๆ แบบ TTL- Twin-Trapezoidal Link อันโด่งดังของมาสด้าอีกด้วย
Mazda - ตาตี่ เป็นฉายาของมาสด้า 323เอฟ (Mazda 323F) เป็นตระกูล 323 รุ่นประมาณปี 1995 - 1998 มีหน้าตาหล่อขึ้นออกแนวตาเล็กๆ คล้ายคนตาตี่ จึงหนีไม่พ้นการถูกเรียกว่ารุ่น "ตาตี่" ในทันที แต่สำหรับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรโฉมนี้ถูกทอนกำลังลงเนื่องจากสาเหตุหลายปัจจัยทั้งเรื่องของมลพิษ, ความประหยัด, ความปลอดภัย ฯลฯ จึงทำให้เหลือกำลังเพียง 125 แรงม้าแต่ก็ขับสนุกด้วยช่วงล่าง TTL ที่เกาะถนนสุดในบรรดารถยนต์เซกเมนต์เดียวกันของยุคนั้น
BMW
BMW - บีเอ็มดับเบิ้ลยู รถยุโรปที่มีตำนานอันยาวนานจากการผลิตเครื่องยนต์ของเครื่องบินจนใช้โลโก้เป็นรูปใบพัดสีฟ้า เมื่อมาอยู่เมืองไทยก็ไม่พ้นถูกตั้งชื่อเล่นให้กับรุ่นต่างๆ มากมาย มาดูรุ่นที่โด่งดังและยังอยู่ในความทรงจำส่วนหนึ่งกันครับ
BMW - E30 ชื่อนี้น้อยคนนักในวงการรถยนต์จะไม่รู้จัก เป็นชื่อเรียกจำรุ่นยิ่งกว่าชื่อเรียกของบีเอ็มดับเบิ้ลยูซีรีส์ 3 ช่วงประมาณปี 1984 - 1990 ซึ่งมีรุ่นย่อยนับหลายสิบรุ่น แต่ก็ใช้เรียกรุ่นนี้จากรหัสตัวถังของรถนั่นคือ E30 เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าเป็นรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูโฉมนี้เท่านั้น
BMW - นกแก้ว บีเอ็มดับเบิ้ลยูซีรีส์ 3 โฉมปีประมาณ 1993 -2000 ไม่มีที่มาที่ไปที่ชัดเจนว่าทำไมถูกเรียกโฉมนี้ว่า "นกแก้ว" ซึ่งในต่างประเทศรู้จักเรียกกันว่า "Dolphin Shape หรือ ทรงปลาวาฬ" เพราะทรงของมันถูกออแบบใหม่ให้โค้งมนสวยงามมากขึ้นทิ้งคราบเดิมของรุ่นเก่าอย่างสิ้นเชิง ส่วนสมมุติฐานที่มาของชื่อเรียกในไทยนั้นมี 2 ข้อคือ หน้าตาช่วงของกระจังหน้าและไฟหน้าโค้งลงมาคล้ายกับปากของนกแก้ว และอีกข้อคือ อาจมาจากซีรีส์ 3 โฉมนี้มีสีเขียวที่สวยงามมากๆ คล้ายกับสีของขนนกแก้ว จึงถูกเรียกว่านกแก้ว โดยสรุปแล้วก็ยังไม่แน่ชัดถึงที่มาแต่ก็เรียกว่านกแก้วจนเป็นที่รู้กันจนถึงทุกวันนี้ครับ
.jpg)
ซีรีส์ 5 โฉม "บิ๊กโนส" ช่องดักลม 2 ช่องแนวตั้งเอกลักษณ์ของ BMW จะโตขึ้นคล้ายคนจมูกใหญ่

ซีรีส์ 5 โฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์เป็นบิ๊กโนส
BMW - Big Nose เป็นชื่อเรียกของบีเอ็มดับเบิ้ลยูซีรีส์ 5 ประมาณปี 1994 โฉมที่ไมเนอร์เชจน์แล้วต่อจากรุ่นปี 1989 - 1993 ซึ่งสังเกตได้ง่ายตรงส่วนของช่องดักลมกระจัง 2 ช่องแนวนอนเอกลักษณ์ของ BMW จะใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิม
Bmw - หน้าฉลาม ชื่อนี้มีการเรียกรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยูในหลายรุ่น แต่รุ่นที่มีรูปร่างชัดเจนมากที่สุดรุ่นหนึ่งนั้นคือ ซีรีส์ 6 ช่วงประมาณปี 1976 - 1989 ซึ่งเป็นรุ่นสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู ใช้เครื่องยนต์ในหลายเวอร์ชั่นพร้อมความแรงระดับต้นๆ ของรถสปอร์ตในยุคนั้น ด้วยรูปทรงที่นับว่าดูเหมือนปลาฉลามมากที่สุดในบรรดาบีเอ็มดับเบิ้ลยูรุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะส่วนของช่องดักลมตรงกลางที่คล้ายกับจมูกของฉลาม จึงเป็นรุ่นแรกที่ถูกตั้งฉายาว่า "ฉลาม"
_front_MJ%20(650x369).jpg)
E46 โฉมแรก ไฟเลี้ยวมุมโค้งลง เรียกว่า "รุ่นไฟตก"
.jpg)
E46 โฉมไมเนอร์เชนจ์ ไฟเลี้ยวมุมโค้งขึ้น เรียกว่า "รุ่นไฟยก"
Bmw - ไฟตก/ไฟยก เป็นชื่อเรียกเล่นๆ ของบีเอ็มดัลเบิ้ลยู ซีรีย์ 3 รหัส E46 ช่วงประมาณปี 1989 - 2006 ที่มีไฟเลี้ยวมุมด้านหน้าทั้ง 2 ข้างโค้งลงเข้าหากันชนในโฉมแรกของรุ่นนี้ และรุ่นไมเนอร์เชนจ์จะเป็นลักษณะโค้งขึ้นเข้าหาแนวฝากระโปรงหน้า จึงเรียกทั้ง 2 รุ่นให้แตกต่างกันเพื่อจดจำง่ายขึ้นว่า ซีรีย์ 3 รุ่น "ไฟยก" หรือ "ไฟตก" นั่นเอง
ชื่อเล่นหรือฉายารถยนต์ที่อยู่ในบทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถยนต์อีกหลายรุ่นที่ในวงการใช้เรียกกัน ซึ่งฉายารถยนต์ต่างๆ เหล่านี้มักมาจากคนในวงการ ทั้งเต็นท์ขายรถยนต์มือสอง หรือแม้แต่สื่อมวลชนสายรถยนต์ใช้เรียกชื่อแทนรถยนต์รุ่นนั้นๆ ก็เพื่อให้สามารถจดจำและบ่งบอกถึงรถแต่ละรุุ่นไม่ให้สับสนกัน แต่การเรียกฉายารถนั้นไม่ได้ใช้กันเป็นทางการนะครับ หากเราไปต่างประเทศแล้วเรียกชื่อแปลกเหล่านี้อาจทำให้งงกันก็เป็นได้