นี่แหละ..สุพรรณบุรี #แฟนพาเที่ยว #NissanXTrail #MyLifeMyTravel

ถ้าพูดถึงสุพรรณบุรี... สิ่งแรกที่นุ้ยคิดถึงคือสำเนียงการพูดน่ารักๆ ของคนในจังหวัดนี้และสิ่งที่ปลูกฝังมาแต่ไหนแต่ไรคือ ...เที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี ต้องไปหอคอยบรรหารแจ่มใส ...เฮ้ย !! แต่นี่มันยุคไหนแล้ว สุพรรณบุรี เขายังมีที่เที่ยวอีกเยอะทั้งทางธรรมชาติ ตลาดเก่าแก่ หรือแม้แต่ร้านกาแฟชิคๆ

เปิดตา เปิดใจ เก็บกระเป๋าโยนใส่ท้ายรถ แล้วออกไปเที่ยวสุพรรณบุรีกันเถอะ ปลายทางของเราในสุพรรณบุรี ตลอด 2 วัน 1 คืน ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ขึ้นเขาไปนอนดูดาว วิ่งเล่นริมเขื่อน ช้อปชิมตลาด 3 ชุก แวะสักการะศาลหลักเมือง กินกาแฟชิลล์ครบรสจริงๆ นี่แหละ สุพรรณบุรี

ทริปนี้เรามีเพื่อนไปด้วย ไม่ได้ไปกันสองคนเหมือนเดิม ก็แหม่โลกตั้งกว้าง... เที่ยวกับเพื่อนบ้างก็ดีนะ ... ทุกครั้ง ที่ได้ออกทริปกับเพื่อนๆ มันอาจจะไม่โรแมนติกอย่างที่เคยเป็น แต่มันโคตรสนุกเลยนะ บอกเลย

การเดิน ทางเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่เช้า วันนี้เราขับรถกันไปเองเหมือนเช่นเคย ในทริปนี้เราพาเจ้า NISSAN X -TRAIL ออกไปเที่ยวด้วยกัน เหมาะที่สุดสาหรับไปเที่ยวกันหลายคน พื้นที่ในรถกว้างมาก การขึ้นเขาไปนอนดูดาว ลุ้นทะเลหมอกของเรา สัมภาระเยอะมากจริงๆ ทั้งกระเป๋า เตาแก๊ส อาหารสด เก้าอี้ กีต้าร์ จักรยาน ขนไปยังกะย้ายบ้าน แต่ NISSAN X -TRAIL เอาอยู่ เพราะสามารถพับเบาะแถว 3 ให้เรียบ เพิ่มพื้นที่ขนของได้อีกเยอะเลยทีเดียว

พร้อมแล้วเราไปลุยกันเลย
#แฟนพาเที่ยว #Nissan #NissanXTrail #สุพรรณบุรี #MyLifeMyTravel

จุดหมายปลายทางแรกในจังหวัดสุพรรณบุรี คือ "เขื่อนกระเสียว"
จริงๆ เราตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่นี่นะ เพราะเคยเห็นพระอาทิตย์ตกริมเขื่อน ทั้งสวย และโรแมนติก แต่ก็ต้องเลือกมาที่นี่ก่อน เพราะคืนนี้เราจะไปนอนดูดาวกันที่อุทยานแห่งชาติพุเตย

เขื่อนกระเสียว อยู่ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเขื่อนดินที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย บริเวณเขื่อนมีทั้ง ร้านอาหาร ที่พัก และจุดกางเต็นท์ แต่นุ้ยมาถึงในช่วงเที่ยงๆ แบบนี้.... ขอเป็นถ่ายรูปฮิปๆ ริมเขื่อนก่อนละกันน้า

ถ่ายรูปเล่นกันอยู่พักใหญ่ กำลังจะออกเดินทางต่อ เพราะปลายทาง จุดกางเต็นท์ของเราไม่ได้อยู่ที่นี่ ที่สำคัญกว่านั้น คือ .... เรายังไม่ได้จองที่พัก หรือจุดกางเต็นท์ไว้กับอุทยานเลย แต่เมื่อเราขับรถออกมาเรื่อยๆ เพื่อที่จะหาหาร้านอาหารเติมพลัง อ้าว !! เฮ้ย .... นอกจากสันเขื่อนแล้ว บริเวณรอบๆ เขื่อน คือสวย โคตรชิลล์เลย

NISSAN X-TRAIL มีระบบ AVM (Around View Monitor) เป็นระบบกล้องรอบตัวรถที่ทำให้เราสามารถมองเห็นภายนอกรถรอบทิศทางแบบ 360องศา เวลาเราถอยจอดรถ เมื่อใส่เกียร์ R ทุกครั้ง ก็จะแสดงภาพให้เห็นอัตโนมัติในหน้าจอทำให้สะดวกสบายเวลาถอยจอด ไม่ว่าจะซ้าย ขวา หน้า หลัง หรือแม้แต่ด้านบน ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมองไม่เห็น สิ่งกีดขวาง

และนี่คือจุดพีค จุดสุดชิลล์ที่นุ้ยบอก เป็นทุ่งหญ้าโล่งๆ อยู่ริมเขื่อน อากาศร้อนตามแสงแดดที่ส่องลงมา แต่ลมพัดเย็นสบาย ต้นหญ้าก็พลิ้วไปตามแรงลม หากเพื่อนๆ มาเที่ยวเขื่อนกระเสียว แนะนำให้ขับรถวนรอบๆ เขื่อนนะ รับรองได้ภาพสวยมุมเด็ด ๆ เพียบ

มาถึงตัวรถ NISSAN X-TRAIL กันบ้าง นอกจากพื้นที่ภายในรถที่กว้างขวางแล้ว สิ่งที่นุ้ยชอบมากก็ Panoramic Sunroof ที่ทำให้เราสามารถออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านบน ได้เห็นมุมมองอีกหนึ่ง มุมมอง และยังได้มุมถ่ายรูปสวยๆ อีกต่างหาก คิดถึงตอนอากาศหนาวแล้วเราออกมาดูวิวทาง Panoramic Sunroof นะ จะหนาวปากสั่น ขนาดไหน คิดแล้วฟิน

รถรุ่นนี้เป็นรถที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีจริงๆ นอกจากระบบ AVM แล้ว ยังมีระบบ Auto Lift Gate ที่แม้จะหอบของเยอะพะรุงพะรังขนาดไหน ก็เปิด-ปิดประตูท้ายแบบอัตโนมัติได้ง่ายๆ สะดวกสบายมากเวลาขนของขึ้น ลงจากรถ นอกจากขาเที่ยวแบบนุ้ย สาวๆ ที่ชอบช้อปปิ้งก็คงชอบฟังก์ชั่นนี้ไม่แพ้กัน

อุทยานแห่งชาติพุเตย ตั้งอยู่ที่ตำบลด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นป่าที่สมบูรณ์ที่สุดของเมืองสุพรรณบุรี เงียบสงบ ดูพระอาทิตย์ขึ้น ตอนเช้า ดูน้ำตก ไอหมอก และยังมีวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยง

ภายในรถจะกว้างไปไหน เบาะก็ใหญ่ นั่งกันสบายมาก มากันหลายคนแบบนี้ ก็ยังเหยียดขาได้ตลอดทาง ไม่มีเมื่อย แม้ว่าขนาดตัวของพวกเราแต่ละคน ไม่ใช่เล็กๆ เลย คริคริ 

สถานที่กางเต็นท์มี 3 จุดใหญ่ๆ ได้แก่

- หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ 1 (ด้านวังคัน-ป่าขี)
- ที่ทำการอุทยานฯ พุเตย (ด้านปลักประดู่-ห้วยหินดา)
- หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ พุเตยที่ 3 ตะเพินคี่ (ด้านปลักประดู่-ตะเพินคี่) ซึ่งเป็นจุดที่จะเดินไปยังยอดเขาเทวดา
และจุดที่พวกเรากางเต็นท์ก็จุดที่ 3 นี่แหละ (14.946690, 99.416606) 

ที่ทำการอุทยานฯ โทรศัพท์ 081-9342240 / 035-446237

เส้นทางขึ้นเขาไปยังจุดกางเต็นท์ จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ได้ง่ายซะเลยทีเดียว แต่ NISSAN X-TRAIL เพื่อนร่วมเดินทางของเราในทริปนี้เอาอยู่ทุกสถานการณ์จริงๆ เพราะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ ใช้งานได้ทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะขรุขระแค่ไหนก็พร้อมลุย และยิ่งมีระบบ ATC ที่ช่วยควบคุมความเร็วขณะเข้าโค้ง ก็ทำให้ผ่านโค้งทุกรูปแบบได้อย่างมั่นใจ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะขึ้นเขา ลงห้วย เข้าโค้ง หรือแม้แต่การออกตัวบนทางชัน ก็ชนะเลิศ

ในที่สุดเราก็มาถึง ปลายทางของเราในค่ำคืนนี้

วันที่เราเดินทางไปเป็นวันธรรมดา ทั้งเขาไม่มีใครเลย นอกจากพวกเรา ถามว่าเหงามั้ย ... ก็ไม่นะ เพราะในค่ำคืนนี้เรามีดาวเป็นเพื่อน มีฟ้าเป็นผ้าห่ม มีสายลมช่วยกล่อม และมีหมาช่วยเฝ้ายาม

ขอเล่าประสบการณ์กันก่อนสักนิดหนึ่ง นุ้ยแนะนำว่าให้เราเตรียมตัวให้พร้อม จองเต็นท์ก่อนเดินทางให้เรียบร้อย หรือควรนำเต็นท์ไปเอง เพราะนุ้ยเจอปัญหาเล็กน้อย สาหรับเรื่องเต็นท์ เกือบไม่มีที่นอนกันเลยทีเดียว ประเด็นคือนุ้ยไม่ได้จองไปล่วงหน้า แต่ได้คุยกับทางอุทยานด้านล่างก่อนขึ้นเขามาแล้วว่าจุดกางเต็นท์ที่ 3 มีเต็นท์แน่นอน แต่เมื่อมาถึงทางเจ้าหน้าแจ้งว่าเต็นท์ไม่มี เพราะส่งซ่อม (ว้ายตายแล้ว) ทางอุทยานแนะนำให้ไปติดต่อจุดกางเต็นท์ของเอกชน ในหมู่บ้านกะเหรี่ยง แต่ปรากฎไม่มีคนเลยสักคน อาจจะเป็นเพราะนี่คือวันธรรมดา ทางเอกชนคงคิดว่าไม่มีใครหลงมาแน่ๆ เพราะจุดนี้ก็ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมาบ่อยนัก จะเยอะก็ช่วงเทศกาล เกือบร้องไห้ ...เกือบเศร้า กลับมายังที่ทำการอุทยานอีกรอบ เจอพี่ภาพ เจ้าหน้าที่อุทยาน พี่ภาพบอกว่าเต็นท์ยังมีหลงเหลืออยู่ แต่ค่อนข้างชำรุด ถ้าฝนตกอาจจะกันฝนไม่ได้ แต่ถ้าจะกางจริงๆ เดี๋ยวพี่ภาพช่วย ...... เย้ๆ ในที่สุดเราก็มีที่นอน ซึ่งได้ราคาเช่าเต็นท์มาในราคา 250 บาท /1 เต็นท์ พร้อมเครื่องนอนด้วยนะเออ
รถเราขนของได้เยอะขนาดไหน ดูในรถเข็นดิเต็มรถเลย นี่แค่รอบแรกนะ ยังขนไม่หมด

ที่นี่ฟ้าสวยทั้งเช้าและเย็น อากาศดีสุดๆ ดีต่อร่างกาย ดีต่อใจ ณ จุดนี้ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เหมือนเราตัดขาดจากโลกภายนอก แต่เรากลับไม่รู้สึกขาดอะไรเลย ... เพราะเรามีเพื่อน ทำให้เวลาหลายชั่วโมง ผ่านไปอย่างรวดเร็ว นั่งเมาท์มอย พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มือไม่ต้องคอยคว้าโทรศัพท์ ไม่ต้องเครียดกับเรื่องงาน

คืนที่ดาวเต็มฟ้าฉันจินตนาการเป็นภาพเธอ

Morning เช้าที่สดใส มีแสงสีส้มสาดส่องมาปลุกถึงหน้าเต็นท์ ... สำหรับใครที่มีความทรหดอดทน แนะนำให้ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง เพื่อปีนป่ายไปยังยอดเขาเทวดา จะได้เห็นทั้งทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้น แต่สำหรับพวกเรา .... แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

อาหารมื้อเช้าสุดเจ๋ง คงหนีไม่พ้นกาแฟ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ความสุขมักเดินทางผ่านไปเร็วเสมอ ... ได้เวลากลับกันแล้ว

คนอื่นมาที่นี่ทำอะไรกันไม่รู้ แต่นุ้ยมาเพื่อกิน เป็นตลาดที่คึกคักมาก คึกทั้งนักท่องเที่ยว แม่ค้า และของกิน ตลาดแห่งนี้เป็นห้องแถวไม้อยู่ริมแม่น้ำ ท่าจีน ตลาดจะเปิดทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด เริ่มตั้งแต่ 7.00 - 18.00 น.

ขนมจีบอร่อยมาก

บะหมี่คือสิ่งห้ามพลาด

วิ่งตรงเข้าเมืองสุพรรณ ไปต่อกันที่ร้านคาเฟ่ชิคๆ ...ก็ไม่เคยคิดเนอะว่าวันหนึ่ง จะมานั่ง จิบกาแฟที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่พอมาเจอเฮ้ย ร้านนี้สวยอ่า ... บอกเลยต้องมานะแกร ร้านนี้ชื่อว่า HUB Cafe นอกจากเป็นร้านชิคๆ จิบกาแฟแล้ว ยังเป็นร้านขายอาหารอีกด้วย แอบเสียใจวันที่นุ้ยไป ในส่วนของร้านขายอาหารปิดพอดี ....

บรรยากาศโดยรอบร้านร่มรื่นมากๆ ตกแต่งสไตล์สวนอังกฤษ สวยเลยล่ะ มุมถ่ายรูปเพียบ ด้านในก็น่ารักเชียวนะ มุมเล็กมุมน้อย จำนวนโต๊ะไม่ได้มากนัก เมนูมีให้เลือกพอสมควร ตอนแรกตั้งใจจะนั่งเล่นกันแปบๆ แต่พอเอาเข้าจริง ปาเข้าไปเกือบ 2 ชั่วโมง โชคดีที่ยังไม่สายมากคนเลยยังไม่เยอะ เป็นช่วงเวลากอบโกยความชิลล์ของเรา

ร้านอยู่ติดกับโรงแรมศรีอู่ทองแกรนด์ ถนนนางพิม ตัวเมืองสุพรรณบุรี เปิดทุกวันเวลา 09.00 - 22.00 น. พิกัด 14.470316, 100.123550

ปังเย็นดีต่อใจ หวานหอม เข้มข้นสุดๆ

แพนเค้กนี่คืออร่อยขั้นเทพ แป้งนุ่มมาก ไม่สั่ง คือพลาด

ก่อนกลับต้องแวะกราบสักการะ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อความเป็นสิริมงคล

นี่แหละ สุพรรณบุรี ในมุมมองของนุ้ย จังหวัดที่ไม่หวือหวา ...แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่น่าสนใจ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่อยากให้ลองไปเที่ยวกัน สำหรับทริปนี้ ขอบคุณน้องอิ้ม และบรีสมากๆ ที่ไปออกทริปนอนดูดาวด้วยกัน ขอบคุณ NISSAN X-TRAIL ที่เป็นเพื่อนร่วมทางให้เราได้ไปลองขับทั้งเข้าเมือง ขึ้นเขา เอาอยู่จริงๆ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Nissan X-Trail ทุกรุ่น

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Nissan ทุกรุ่น