6 ข้อแนะนำ เลือกรถอย่างไรให้เหมาะกับวัยเริ่มทำงาน
การเลือกซื้อรถให้เหมาะกับวัยเริ่มทำงาน ให้สามารถตอบสนองไลฟ์ไตล์ ชีวิตที่เร่งรีบ พร้อมกับกิจกรรมที่หลากหลายในช่วงหลังเลิกงานและวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น ปัจจัยที่สำคัญนอกเหนือจากความชอบรถยนต์ในรุ่นต่างๆ แล้ว มีสิ่งใดบ้างที่เป็นส่วนช่วยใช้การเลือกซื้อรถยนต์ให้เหมาะสมและตอบสนองความต้องการให้ครบทุกด้าน มาดูกันเลย
1. งบประมาณ
การเลือกซื้อรถยนต์ในวัยเริ่มทำงานนั้น เรื่องของงบประมาณนับเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องนึกถึง ราคาของรถยนต์ที่จะซื้อนั้นต้องเหมาะสมกับค่าใช้จ่ายของรายได้ต่อเดือนด้วย นอกเหนือจากนี้ รถยนต์รุ่นที่จะซื้อต้องมีความคุ้มค่ามากที่สุดในราคาที่ให้อุปกรณ์ครบมากที่สุด และเป็นรถยนต์ที่ใช้งานทุกวันได้อย่างมั่นใจและอุ่นใจมากที่สุด หากในวัยเริ่มทำงานนั้นมีรายได้พอประมาณไม่สูงมากนัก ก็ควรเลือกรถยนต์ในระดับ อีโคคาร์ ซึ่งรถยนต์ในระดับนี้ มีอยู่หลายรุ่นที่น่าสนใจและคุ้มค่าไม่แพ้รถขนาดกลางทีเดียว ส่วนถ้าใครที่มีกำลังเงินมากขึ้นสักหน่อยก็มองรถยนต์ขนาด บี-เซกเมนต์ เพื่อความคุ้มค่าที่มากกว่า และรับรองการใช้งานต่อไปในอนาตค จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนรถยนต์บ่อยๆ
งบประมาณมากหน่อยก็เลือกรุ่นที่ให้ความคุ้มค่า
ชอบความคล่องตัวต้องเน้นซีดานเข้าไว้
อยากประหยัดสุดๆ ต้องนี่อีโคคาร์
2. ขนาดพอดีและเหมาะสม
การเลือกรถยนต์เพื่อใช้งานในทุกๆ วันนั้น โดยเฉพาะกับวัยทำงานควรเลือกให้เหมาะสมตามความจำเป็นต่างๆ เช่น เดินทางในเมืองหรือนอกเมืองเป็นหลัก จำนวนผู้โดยสารในแต่ละวัน ระยะทางหรือความถี่ในการเดินทางไกล เป็นต้น หากใช้งานคนเดียวทุกวันก็ไม่ควรเลือกซื้อรถยนต์ประเภทแวน เอสยูวี หรือปิคอัพ เพราะเกินความจำเป็น หรือถ้ามีสัมภาระมากก็ควรดูรถยนต์ประเภทซีดานหรือแฮตช์แบ็ก เพื่อความสะดวกสบาย และหากมีสิ่งของมีค่าจำเป็นต้องเก็บในรถบ่อยๆ ก็ควรเลือกรถที่มีฝากระโปรงท้ายแบบซีดานเอาไว้เป็นอันดับแรกๆ เพื่อแอบซ่อนสัมภาระได้โดยปลอดภัย
หากมีผู้โดยสารร่วมเดินทางบ่อยๆ ก็เลือกรถหลายที่นั่ง
ส่วนใครที่ทำงานย่านชานเมืองหรือนอกเมืองนั้น ควรพิจารณาตามความพร้อมของงบประมาณอีกครั้งว่า เลือกรถยนต์ระดับกลางขึ้นไปได้มากน้อยเพียงใด เพราะการขับรถเดินทางนอกเมืองจำเป็นต้องใช้ความเร็วและการเร่งแซงบ่อยกว่า รวมถึงมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น จึงควรเลือกรถยนต์ให้เหมาะกับสภาพการเดินทางเผื่อเอาไว้ด้วย
หากเน้นคนนั่งร่วมทาง 2 - 3 คน ก็เลือกรถขนาดกลางๆ
หากเน้นขับคนเดียวก็ควรเลือกรถขนาดเล็กลงให้เหมาะสมกับการใช้งาน
3. ความประหยัด
แน่นอนว่าในวัยทำงานนั้น การมีกิจกรรมหลังเลิกงานและในวันหยุดล้วนเป็นเรื่องใหญ่ การเลือกรถยนต์ให้เหมาะกับกิจกรรมช่วงสุดสัปดาห์จึงควรเป็นรถยนต์ที่ให้ความประหยัดในทุกๆ ด้าน ทั้งค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่อเดือนและค่าน้ำมัน จึงควรเลือกรถยนต์ที่สามารถตอบสนองในจุดนี้ให้ได้มากที่สุด แต่ก็ไม่ทิ้งสมรรถนะที่ดีเยี่ยม
ความประหยัดนั้นสำคัญต่อชีวิตมนุษย์เงินเดือนมากๆ
รถยนต์พลังงานทางเลือกที่ติดตั้งจากโรงงานก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
4. ความคล่องตัว
สำหรับคนที่ขับรถไปทำงานโดยเฉพาะในเขตตัวเมือง มักมีปัญหาเรื่องสภาพการจราจรแออัด รวมถึงเรื่องที่จอดแคบๆ การเลือกรถเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาต่างๆ เหล่านี้ก็มีส่วนสำคัญมาก "ความคล่องตัว" ทั้งการขับขี่ในเมือง การหาที่จอด และการกลับรถ นับเป็นสิ่งต้องเจออยู่เกือบทุกวัน การเลือกรถยนต์ที่มีความคล่องตัวจึงช่วยให้ขับขี่รถยนต์ไปทำงานหรือทำธุระต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นไม่ติดขัด (ยกเว้นรถจะติด) สามารถขับขึ้น-ลงลานจอดรถแคบๆ ได้ จอดริมถนนที่มีช่องว่างระหว่างรถแคบๆ ได้สะดวก และช่วยให้การเลี้ยวหรือกลับรถเป็นไปได้อย่างคล่องตัว
5. สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
รถยนต์สำหรับวัยเริ่มทำงานส่วนมากมักเลือกรถระดับกลางลงมา เช่น บี-เซกเมนต์ หรือ เอ-เซกเมนต์ บางครั้งก็ใช้อีโคคาร์ไปเลยเพื่อความประหยัดมากขึ้น ไม่ว่ารถยนต์ระดับไหนก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือ ความสะดวกสบาย ออปชั่นที่คุ้มค่า และอุปกรณ์ความจำเป็นที่ให้มากกว่า และต้องคุ้มค่ากับที่เลือกซื้อ
การเลือกซื้อรถยนต์ในวัยทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดคือ "ความปลอดภัย" เพราะในบางครั้งจำเป็นต้องใช้รถยนต์เดินทางต่างจังหวัดไกลๆ รถยนต์จึงต้องตอบสนองได้ดี ทั้งมีอัตราเร่งที่ดี ระบบช่วงล่างที่เกาะถนน และระบบช่วยเหลือฉุกเฉินต่างๆ ต้องได้มาตรฐานหรือมากกว่ามาตรฐาน ไม่ว่ารถยนต์ระดับใดก็ตาม ความปลอดภัยย่อมมาก่อนเสมอ
อย่างน้อยควรมีระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน
หากได้ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้งมาด้วยก็ยิ่งดี
เพราะวัยทำงานคือการเดินทางไม่สิ้นสุด
รถยนต์อาจเป็นปัจจัยที่จำเป็นในการเดินทาง เพราะการใช้รถยนต์สาธารณะอาจไม่ทั่วถึงและไม่สะดวกสบาย โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้นทำงานต้องไปให้ทันเวลา แต่อย่าลืมว่า "ความจำเป็นกับความพอดี" ควรพิจารณาให้สอดคล้องกัน ซื้อรถยนต์ให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานจริง ไม่เกินพอดี และไม่กระทบจนเดือดร้อนในภายหลัง นอกจากนี้ควรหมั่นฝึกฝนทักษะความชำนาญในการขับรถยนต์ให้เพิ่มมากขึ้น พัฒนาฝีมือการขับขี่ให้ถูกต้อง ถูกกฎ ถูกหลักและปลอดภัยนะครับ