มีอะไรแบบนี้ที่เชียงใหม่ด้วยเหรอ! ...พาขับรถแบบชิคๆ แอ่วแดนล้านนา "เชียงใหม่" เมืองน่าเที่ยวที่ไปได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะฤดูร้อน หนาว เหงา เปล่าเปลี่ยว ก็เที่ยวได้ตลอด แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่ก็มีหลายที่ วันนี้เช็คราคา.คอมจะพาคุณไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวแบบชิคๆ ที่ทั้งแปลก แหวกแนวฮิปสเตอร์ แตกต่างและทรงคุณค่า โดยสามารถไปได้ครบใน 3 วันเท่านั้น
การไปเที่ยวเชียงใหม่ที่แสนสบายและรวดเร็วที่สุดคือ นั่งเครื่องบินครับ และถ้าหากจะให้สะดวกในการเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็เช่ารถขับ โดยสามารถเลือกจองได้ทั้งทางออนไลน์หรือจะไปจองที่เชียงใหม่เลยก็ได้ สำหรับทริปนี้ เราใช้วิธีการจองผ่านทางเว็บไซต์ โดยเลือกเช่ารถของชิค คาร์เร้นท์ เพราะเห็นว่ามีแต่รถรุ่นใหม่ๆ และมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินแบบครบถ้วน ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
VIDEO
การเลือกรถเช่าครั้งนี้เน้นประหยัดค่าเช่ารถ, ประหยัดน้ำมัน, ประหยัดพื้นที่จอด เราจึงเลือกฮอนด้า แจ๊ซ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่มีกำลังเพียงพอต่อการขึ้นเขา-ลงห้วย และขนของได้พอสำหรับสามคน โดยมีพนักงานของชิค คาร์เร้นท์มารับจากทางออกผู้โดยสารและพามารับรถที่ลานจอดด้านข้างสนามบินเชียงใหม่ พร้อมเอกสารรับ-ส่งรถเรียบร้อย แถมยังให้น้ำมันมาเต็มถัง เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยครับ
ไปทะเลกันที่ "มหาสมุด Library" - บ้านข้างวัด จากสนามบินเราได้แวะแหล่งท่องเที่ยวแห่งแรกคือ บ้านข้างวัด เป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ได้มารวมตัวกันทำเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นไอของความเป็นชุมชนจริงๆ โดยบ้านแต่ละหลังจะตกแต่งให้เป็นร้านค้า ร้าน อาหาร เช่น "มหาสมุด" ร้านกาแฟชื่อเก๋ไก๋ ราวกับมีทะเลที่เชียงใหม่, ร้านขนมจีนบุฟเฟ่ต์หัวละ 69 บาท พร้อมของหวาน เติมไม่อั้นอิ่มไปจนถึงค่ำเลย
ส่วนด้านหลังของชุมชนนี้ก็มีแปลงสาธิตการปลูกผักต่างๆ นับเป็นกิจกรรมที่ให้ผู้มาเยี่ยมเยือนได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของชาวบ้านอย่างแท้จริง
การเดินทาง
เริ่มต้นจากสนามบินไปตามถนนบุณเรืองฤทธิ์-เข้าถนนสุเทพ-ถนนรอบเมืองเชียงใหม่-มองทางขวา ปากทางมีร้านกาแฟหวานใจ เลี้ยวเข้าไปได้เลยครับ
ไปล้างใจที่วัดอุโมงค์ วัดอุโมงค์ และสวนพุทธธรรม สองชื่อนี้เป็นชื่อที่ใช้เรียกสถานที่ส่งเสริมการปฏิบัติธรรมของพุทธนิคมเชียงใหม่แห่งเดียวกัน แต่มีความหมายต่างกัน
วัดอุโมงค์ (อุโมงค์เถรจันทร์) เป็นชื่อเรียกวัดเก่าที่ "พระเจ้ากือนาธรรมิกราช" ทรงสร้างอุโมงค์ขึ้นเพื่อถวายให้พระมหาเถรจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญในพระไตรปิฎกอาศัย
วัดอุโมงค์นี้หมายเอาเฉพาะบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมผืนผ้าซึ่งมีกำแพงอิฐปรากฏอยู่ทั้งสี่ด้าน ด้านตะวันออกจากขอบสระใหญ่ ด้านเหนือตรงไปทางทิศเหนือโรงพิมพ์ปัจจุบันจรดกำแพงอิฐพอดี ยาวประมาณ 100 วา ด้านเหนือจากแนวกำแพงเหนือโรงพิมพ์ปัจจุบันทางทิศตะวันตก จนถึงขอบสระหลังวัดอุโมงค์ ยาวประมาณ 100 วา ด้านตะวันตกจากขอบสระแนวกำแพงด้านเหนือ ถึงขอบสระใหญ่ใต้พระเจดีย์ ยาวประมาณ 100 วา ด้านใต้จากขอบสระหลังพระเจดีย์ตรงไปทางตะวันตกจรดกำแพงทิศตะวันออกหน้าพระอุโบสถ ยาวประมาณ 100 วา มีพระอุโบสถขนาดย่อมตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีพระเจดีย์ใหญ่แบบลังกาวงศ์ และอุโมงค์(ถ้ำ) 1 อุโมงค์ มีทางเข้า 3 ทาง ตั้งอยู่ตลอดแนววัดด้านตะวันตก และมีศาลาตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจากหน้าอุโมงค์ไปประมาณ 1 เส้น คิดเป็นเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 25 ไร่
การเดินทาง
วัดอุโมงค์กับบ้านข้างวัดอยู่ใกล้ๆ กัน ถ้าดูตามแผนที่จะเห็นว่าเส้นทางที่จะกลับเข้าตัวเมืองย่อมผ่านวัดนี้และจะมีป้ายบอกตลอดทางอีกด้วย
บ้านข้างวัด-วัดอุโมงค์
ไปแตะขอบฟ้าที่ม่อนแจ่ม ม่อนแจ่ม แหล่มจริงๆ.... ม่อนแจ่มตั้งอยู่ที่อำเภอแม่ริม มีลักษณะเป็นเนินเขาสูง บนม่อนแจ่มมีที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ให้นักท่องเที่ยวได้พักชมธรรมชาติ สัมผัสอากาศหนาวเย็นตลอดปี และเป็นจุดดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างสวยงาม
การเดินทาง
ขับรถไปทางอำเภอแม่ริม จะมีป้ายบอกทางไปอำเภอแม่ริมสังเกตได้ง่าย ผ่านฟาร์มงูแม่สา-ปางช้างแม่สา-สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตรงไปสักพักจะมีแยกให้เลี้ยวขวาจะเจอทางขึ้นสู่ม่อนแจ่ม
ชื่อถนนคนเดินก็ต้องมีแต่คนเดิน ผู้ที่ไปเชียงใหม่ย่อมคุ้นเคยและต้องมาเยี่ยมเยียน แต่ในวันที่เราไปเที่ยวกันเป็นวันพิเศษ ถนนคนเดิน สเปเชียล ที่มีความยาวเพิ่มขึ้นสุดลูกตา เดินกว่า 2 ชม.ก็ยังไม่สุดถนนและยังไม่รวมแยกต่างๆ ที่มีร้านค้าอีกเพียบ เรียกว่าขาอ่อนเดินกลับแทบไม่ไหวเลยทีเดียว
ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของใช้ เสื้อผ้า ของกิน และยังมีการแสดงจากศิลปินมากมายที่เรียงรายตามทาง สร้างความบันเทิงได้ไม่น้อย ส่วนใครที่หิวเมื่อมาที่นี่รับรองว่าอิ่มพุงกางกลับไปแน่นอน
การเดินทาง
เส้นทางหลายๆ คนที่เคยไปเชียงใหม่คงคุ้นเคยกันดี แต่ถ้าขับรถไปเอง อาจหาที่จอดรถยากไปสักหน่อย แนะนำว่าถ้าไม่ไกลจากที่พักมากนักให้นั่งรถแดงจะสะดวกกว่า
ไปกินอาหารพื้นเมืองที่ต๋องเต็มโต๊ะ วันที่ 2 ของการเที่ยวเริ่มต้นที่ร้านดังในย่านถนนนิมมานเหมินทร์คือ "ต๋องเต็มโต๊ะ" หรือจะเรียกโต๊ะเต็มก็ได้เพราะถ้ามาช้าแค่ก้าวเดียวอดนั่งแน่ๆ คนทยอยเข้าร้านนี้เยอะมากๆ และอาหารที่สั่งเยอะและอิ่ม คุ้มค่าจริงๆ มา 3 สั่ง 5 จ่าย 400 บาทเอง!
การเดินทาง
ร้านต๋องเต็มโต๊ะ อยู่ในซอยนิมมานเหมินทร์ 13 ถ้าเข้าจากถนนนิมมานเหมินทร์จะอยู่ซ้ายมือ หน้าร้านจะเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นและไม่มีที่จอดรถนะครับ ต้องหาที่จอดตามริมทาง
ไปกินกับ "Guu" ที่ร้านโรตี กู ร้านโรตีกู ที่จริงชื่ออังกฤษดูดีมากๆ "กู โรตีและชาชัก (Guu Fusion Roti & Tea)" เป็นร้านของหวาน ทั้งโรตีแบบต่างๆ มากมาย เครื่องดื่มที่ชวนสั่งแทบทุกเมนู เช่น โรตี ฝอยทองที่ใครมาต้องสั่งและอร่อยมากๆ ส่วนโรตีแบบอื่นๆ ก็เลือกได้ตามความชอบมีทั้งคาว-หวานครบ
การเดินทาง
ร้านโรตีกูตั้งอยู่ปากซอยนิมมานเหมินทร์ 3 หาง่าย แต่ต้องหาที่จอดเองตามริมทางนะครับ หรือจะนั่งรถแดงมาก็ได้
ดอยสุเทพ ใครที่ไปเชียงใหม่แล้วต้องรู้จักและต้องขึ้นมาไหว้พระขอพรกัน ส่วนเรานอกจากไหว้พระแล้วยังถือโอกาสเดินย่อยจากทริปกินแหลกและได้รูปวิวสวยๆ ของเมืองเชียงใหม่ด้วย แถมได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวถ่ายรูปให้ฟรีไม่คิดค่าบริการ!
จุดชมวิวก่อนถึงยอดดอยมีบริการวาดภาพเหมือน ราคากันเอง 20 บาท
การเดินทาง
การไปดอยสุเทพใช้ถนนห้วยแก้ว ขับผ่านม.เชียงใหม่ และผ่านสวนสัตว์เชียงใหม่ก็จะเจอทางขึ้นดอย
ไป Drink แต่ไม่ Drunk ที่ Neo Cafe
Neo Cafe ร้านกาแฟบนเนินเขาหลังมช. โลโก้เป็นผู้ชายมีเครามีหูแบบน้องหนูมิคกี้ เมาส์ ตกแต่งแบบแนวๆ ใหม่ปนเก่าเอาตามที่สบายใจ แต่ก็มีมุมน่ารักให้ถ่ายรูปเยอะ จุดเด่นคือ กาแฟรสชาติเข้ม และขนมที่มีเมนูหลากหลาย ซึ่งเราสั่งมาลองชิม 2 เมนูเห็นแล้วน้ำลายไหล นี่ขนาดอิ่มจากทริปกินตั้งแต่เช้าแล้วยังซัดจนเกลี้ยงเลย
เชื่อว่าโฟล์คคันนี้คงผ่านมาหลายช็อตแล้ว เราก็เอาด้วย
การเดินทาง
จากถนนรอบเมืองเชียงใหม่ให้มุ่งไปทางถนนช่างเคี่ยนตรงไปตามทางจะเห็นป้ายร้าน Neo Cafe
ห้องน้ำยังแนวเลย
อ่างแก้ว หรืออ่างเก็บน้ำในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามโดยเฉพาะยามเย็นที่จะมีนักศึกษามาออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่างๆ มีวิวน่ารักๆ... เอ๊ย วิวทิวเขาด้านหลังสวยๆ เป็นฉากหลัง เหมาะกับการมาเดินเล่น นอนพักผ่อน หรือถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกหลังภูเขาก็งดงามและอากาศเย็นสบายมากๆ
หลังจากอิ่มแล้วก็นอนขึ้นอืดกัน
การเดินทาง
อ่างเก็บน้ำห้วยแก้วอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากปากทางเข้าให้เลี้ยวขวาก็จะมีที่จอดรถและเดินไปอีกนิดก็จะสัมผัสถึงความสวยงามของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้
อยากจะหลับตรงนี้ แต่ยังต้องไปต่อ
ไปเปิดหมวกที่ขัวสะพานเหล็ก
"สะพานเหล็ก" เป็นจุดดึงดูดเหล่าบรรดาวัยโจ๋ทั้งหลายมารวมตัวกันทำอะไรสักอย่างที่เราอาจไม่เข้าใจ แต่ที่แน่ๆ สะพานเหล็กเคยเป็นฉากของหนัง ละคร โฆษณาดังๆ มาแล้ว แถมบรรยากาศยามค่ำคืนก็โรแมนติกจริงๆ ซะด้วย
รอจังหวะรถโล่งๆ ก็ลงไปถ่ายได้เลย
ข้างๆ สะพานเหล็กก็มีซุ้มปาเป้าด้วย
สะพานเหล็กสามารถขับรถผ่านได้ แต่เป็นการเดินรถทางเดียว และถูกตกแต่งด้วยไฟ LED หลายสีเปลี่ยนตามจังหวะยิ่งมองระยะไกลยิ่งสวยเพราะแสงสะท้อนจากพื้นน้ำทำให้งดงามและห้ามพลาดที่จะมาถ่ายเซลฟี่ที่นี่!
การเดินทาง
ทางไปสะพานเหล็กยอมรับว่าพวกเราไม่คุ้นเคยนัก ต้องพึ่งแผนที่นำทางในอากู๋ กว่าจะเจอก็กินเวลาไปสักพัก ถ้านั่งรถสาธารณะอาจหาไม่ยาก แต่หากขับรถไปอาจมีงงบ้าง
ไปกินของแปลกที่บะหมี่พ่อมึงตาย
พ่อมึงตาย...เมนูเด็ดจาก "ซุ้มเฮียฮ้ง" ด้วยบะหมี่ 60 ก้อนที่ใส่มาพร้อมไข่ลวก หมูแดง เกี้ยว และซูปดูก เหมาะสำหรับกินกัน 6 คนขึ้นไป แต่เท่าที่เห็นของจริงน่าจะ 10 คนนะ
ชามนี้ใหญ่รองจาก พ่อมึงตาย
ส่วนบะหมี่ที่เรายังไม่ทันได้สั่งกัน แต่เฮียจัดให้เลย กับ "รักสามเศร้า" 1 ชุด พร้อมขนมหวานอีก 1 ชุด พุงแตกกันถ้วนหน้า ชามนี้ประกอบด้วยบะหมี่คาดว่าน่าจะ 10 - 15 ก้อน เหมาะกับกิน 3 คน แต่ดูของจริงแล้ว 5 คนยังอิ่ม!
ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะเคลียร์ได้
บรรยากาศร้านเป็นกันเองดุจพี่น้อง นั่งทานไปสะดุ้งไป! กับลีลาการสั่งที่ฟังเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าเสียงดังมากกก.. และเฮียฮ้งก็อารมณ์ดี จิบน้ำข้าวไป ลุกขึ้นเต้นไปยิ่งทำให้บรรยากาศครึกครื้นมากขึ้น เรียกน้ำย่อยมาช่วยสลายบะหมี่ชามโตของเฮียได้อย่างดี แต่ไปตายตอนจบกับของหวานที่แถมท้ายจนได้
การเดินทาง
ร้านนี้ย้ายจากที่เก่าตรงถนนเจ็ดยอดไปตั้งอยู่แห่งใหม่บริเวณประเสริฐแลนด์ ริมถนนรอบเมืองเชียงใหม่ สังเกตไฟเทคที่ส่องไปมาให้ดีนั่นแหละร้าน บะหมี่พ่อมึงตาย หรือให้สังเกตทางเข้าร้านตะวันแดง มหาซน เชียงใหม่ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันหรือในแผนที่จะใช้ชื่อว่า ตลาดกาดเชิงดอย
โอ้กะจู๋ ฟังดูทะลึ่ง (จริงๆ ก็แฝงทะลึ่งเอาไว้บ้าง) แต่ความจริงมาจาก 2 เพื่อนซี้ อู่ กะ โจ้ ที่มาเปิดร้านด้วยกัน และใช้ผักปลูกเองหลังร้านมาปรุงให้ลูกค้ากันสดๆ รสชาติอร่อยเหาะใช้ได้
ผักสดๆ และรสชาติที่กลมกล่อม แต่ละจานไซส์บิ๊กมากๆ เรียกว่าแม้ทานแต่ผักก็อิ่มพุงกางเลย ตู้โชว์ขนมหวานในโอ้กะจู๋
การเดินทาง
ตั้งต้นจากสนามบินเช่นเคย เพราะเป็นจุดการเดินทางหลักๆ ถ้าเดินทางจากถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ให้เลี้ยวซ้ายที่แยกโรงพยาบาลเทพปัญญาทางหลวง 1001 และเลี้ยวขวาเข้าถนนรอบตัวเมืองเชียงใหม่ ทางหลวง 121 จะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือ
จากการเดินทางในครั้งนี้นับว่าใช้งบประมาณระดับกลางๆ โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนของการกิน-เที่ยวราวๆ สี่พันกว่าบาท ค่าเช่ารถฮอนด้า แจ็ซ 3 วัน 3,300 บาท และค่าเครื่องบินสองพันกว่าบาทต่อคน (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่จองได้) โดยทริปนี้ประหยัดค่าต่อรถในการเดินทางด้วยการเช่ารถ หมดปัญหาไม่ต้องปวดหัวกับการหารถหลายต่อ ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ แถมเมื่อรับรถมาก็มีน้ำมันให้เต็มถังและตลอด 3 วัน ใช้ไปเพียงครึ่งถังเท่านั้น ซึ่งรถรุ่นนี้มีความประหยัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในวันส่งคืนรถก็เติมกลับเต็มถังเพียง 400 กว่าบาทเท่านั้นเองครับประหยัดจริงๆ
จบทริปสนุกสุดชิค ได้ชาร์จแบตให้หายเหนื่อย พร้อมกลับมาลุยงานต่อ!!!