10 เหตุผลที่รถซิตี้คาร์เหมาะกับสภาพการจราจรในประเทศไทย
เพราะชีวิตคนเมืองต้องใช้ความเร่งรีบตลอดเวลาทั้งเช้าและเย็น การใช้รถยนต์ที่ขนาดใหญ่โตเกินความจำเป็น ย่อมทำให้ขาดความคล่องตัวและความสะดวกสบาย ในบางครั้งอาจมีปัญหาเรื่องที่จอดรถ อย่างเช่นในซอยแคบๆ หรือแม้แต่ในลานจอดที่มีขนาดไม่กว้าง หลายๆ คนอาจคิดว่ารถคันใหญ่จุผู้โดยสารหรือสัมภาระเยอะๆ ได้มากกว่า แต่ในชีวิตจริงอาจขับเพียงคนเดียวเกือบทุกวัน หรือนานๆ ครั้งถึงจะมีคนนั่งไปด้วยเพิ่มอีก 1-2 คน กลายเป็นว่าจะได้บรรทุกสัมภาระเยอะๆ หรือมีคนนั่งไปด้วยหลายคนก็เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น
หลายๆ คนอาจเคยเจอปัญหาเรื่องการจอดรถ เมื่อต้องการแวะทานอาหารริมทางแต่กลับหาที่จอดลำบาก เพราะช่องจอดรถแคบไป หรือการเลี้ยวกลับรถในถนนเล็กๆ ทำได้ยาก และสุดท้ายก็ต้องอดแวะร้านอร่อยเหล่านั้นไปจบที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันแทน โดยเฉพาะในย่านตัวเมืองอย่างเช่น ถนนเยาวราช ถนนเอกมัยหรือสีลมนั้น หาที่จอดยากมาก แต่ถ้ารถยนต์ขนาดซิตี้คาร์อาจหาที่จอดได้สะดวกและคล่องมากขึ้น น่าเหมาะสมกับชีวิตคนเมืองมากที่สุด
ดังนั้นการเลือกใช้รถยนต์ขนาด B-segment, Compact Car หรือ ซิตี้คาร์ ย่อมสะดวกและคล่องตัวสำหรับชีวิตในเมืองที่รถติดๆ อย่างสภาพการจราจรในประเทศไทย มาดู 10 เหตุผลว่าทำไมเราจึงควรเลือกซื้อรถแบบซิตี้คาร์กัน
รถยนต์ขนาด B-Segment อย่าง MG3 ให้ความสะดวกคล่องตัว กะทัดรัดและขับขี่ง่าย โดยเฉพาะในเส้นทางที่แคบหรือเล็ก รวมถึงสามารถขับเข้าช่องจอดได้อย่างสะดวก
2. ภายในและพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง
ชีวิตคนเมืองย่อมมีกิจกรรมหลากหลายในแต่ละวัน รถซิตี้คาร์ในปัจจุบันอย่าง MG3 ให้พื้นที่ในการใช้สอยที่กว้างมากพอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถคันใหญ่ๆ เหมือนสมัยก่อนก็สามารถบรรทุกสัมภาระได้สบายๆ และมีความอเนกประสงค์ในการพับปรับเปลี่ยนรูปแบบเบาะตอนหลังได้ เพื่อให้เกิดความสะดวกและคุ้มค่ามากที่สุด
3. สะดวกสบายพร้อมฟังก์ชันคุ้มราคา
ซิตี้คาร์ในปัจจุบันมักเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใกล้เคียงหรือเทียบเท่ารถยนต์ระดับสูงกว่า เพื่อความทันสมัยสะดวกสบายเมื่อใช้งานในเมืองที่รถติดขัด ยิ่งถ้ามีระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน, ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ หรือหลังคาซันรูฟ ยิ่งทำให้เพลิดเพลินแม้ว่ารถจะติดนิ่งสนิทนานแค่ไหนก็ชิลๆ ซึ่งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหล่านี้มีอยู่ใน MG3
แน่นอนว่ารถระดับนี้ย่อมมาพร้อมราคาที่ประหยัด สามารถใช้ชีวิตแบบ "ฟินๆ" ได้อย่างอิสระ ไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งราคารถและการดูแลรักษา
เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายต่างๆ ราคาที่จ่ายไป การเลือกใช้รถขนาดเล็กอย่าง MG3 ย่อมประหยัดคุ้มค่ามากกว่ารถที่มีขนาดความจุเครื่องยนต์มากๆ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในเรื่องการบำรุงรักษามากกว่าแน่นอน อีกทั้งรถซิตี้คาร์ยังตอบสนองการใช้ชีวิตของคนเมืองได้ดีกว่า
MG3 สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ตั้งแต่ระบบของเหลวที่ใช้ปริมาณน้อยลง น้ำมันเติมถูกลง การเข้าสถานบริการล้างรถดูดฝุ่นก็ราคาถูกลง และในปัจุบันก็มีการรับประกันคุณภาพที่ยาวนานทั้งด้านอะไหล่และบริการยิ่งช่วยให้ค่าใช้จ่ายต่ำลงอีกด้วย
7. รักษ์โลก ลดมลพิษ ลดโลกร้อน
เรื่องนี้มาเกี่ยวกันได้อย่างไร ความจริงคือ มีผลโดยตรงต่อสภาวะแวดล้อมล้วนๆ เพราะในเขตการจราจรที่ติดขัด มักมีมลพิษในอากาศสูง ส่งผลทั้งอากาศไม่บริสุทธ์ สุขภาพเสีย ความร้อนจากการเผาไหม้สูง อัตราการปล่อยควันพิษแม้ผ่านชุดกรองไอเสียแล้วก็นับว่าสูง และยิ่งรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ความจุมากๆ ยิ่งคายไอเสียมากตามไปด้วย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพอากาศของโลก ดังนั้นการใช้รถยนต์ทั้ง Eco Car หรือ City Car ย่อมช่วยลดการปล่อยมลพิษเข้าสู่ในชั้นบรรยากาศของโลกให้น้อยลงไป และสุดท้ายก็ส่งผลดีต่อมนุษย์เรานั่นเอง
นอกจากความคล่องตัวและประหยัดแล้ว MG3 ได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยที่มีมาตรฐาน ทั้งระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน เป็นต้น ซึ่งแม้จะรถเล็กแต่ก็ได้รับความปลอดภัยที่ครบสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับรถรุ่นใหญ่
บริษัทรถยนต์บางค่ายนำเสนอโปรโมชั่นส่งเสริมการขายรถยนต์ของตน เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มสูงขึ้น อาทิ MG ค่ายรถยนต์น้องใหม่จากประเทศอังกฤษ จัดโปรโมชั่นพิเศษ ให้คุณเป็นเจ้าของรถยนต์ MG ง่ายๆ แบบสบายกระเป๋า!
- MG3 ราคาเริ่มต้น 479,000 บาท ผ่อนเริ่มต้น 5,205 บาท/เดือน (เฉพาะดาวน์ 25% ผ่อนชำระ 84 งวด)
- NEW MG6 ราคาเริ่มต้น 818,000 บาท ผ่อนเริ่มต้น 8,888 บาท/เดือน (เฉพาะดาวน์ 25% ผ่อนชำระ 84 งวด)
10. พึงพอใจกับการบริการที่ดีที่สุด
รถยนต์ของลูกค้าควรได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุดเพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ปราศจากความกังวล ยกตัวอย่างเช่น MG นอกจากการนำเสนอโปรโมชั่นส่งเสริมการขายข้างต้นแล้ว ยังได้นำเสนอการบริการหลังการขายเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ดังนี้
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance)
- การรับประกันภายในระยะเวลา 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่รถใหม่ส่งมอบให้ลูกค้ารายแรก
- การรับประกันคุณภาพอะไหล่แท้ MG ที่ติดตั้งจากผู้จำหน่ายเป็นเวลา 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่บนใบเสร็จ
- การรับประกันแบตเตอรี่ 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
- ยางรถยนต์รับประกัน 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
- ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (MG Call Centre) โทร. 1-800-999-988 (สำหรับโทรศัพท์พื้นฐาน) โทร. 1-401-999-988 (สาหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่)
- ตารางการบำรุงรักษา MG3
สำหรับรถซิตี้คาร์ที่น่าสนใจในตอนนี้ MG3 Hatchback ก็เป็นรุ่นหนึ่งที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนเมืองได้จริง ทั้งคล่องตัว ประหยัด อเนกประสงค์และราคาคุ้มค่า ครบถ้วนและลงตัวมากที่สุดแล้วในขณะนี้ เพราะขนาดตัวรถที่เล็กคล่องตัวควบคุมง่าย เครื่องยนต์ที่ให้กำลังได้อย่างเหมาะสม 1.5 ลิตร 103 แรงม้า เกียร์แบบกึ่งอัตโนมัติ 5 จังหวะ Selematic ที่สามารถปรับเปลี่ยนจังหวะที่คันเกียร์ ภายในกว้างกำลังดี ท้ายจุของได้เพียบ พับเบาะได้ ที่โดดเด่นกว่าใครคือ ระบบช่วงล่างที่แน่นหนึบ เกาะถนนดีมากๆ และยังได้ความปลอดภัยมาเพียบ ซึ่งราคาค่าตัวของ MG3 Hatchback ก็ราคาไม่แรงมาก เริ่มต้นเพียง 479,000 บาทเท่านั้น